ทาเคดา เผยความคืบหน้าในการขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ในภูมิภาคเอเชีย

พฤหัส ๐๔ ตุลาคม ๒๐๑๒ ๑๐:๐๓
ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทได้ขอขึ้นทะเบียนยาไปแล้ว 7 ครั้งในหลายประเทศและเขตการปกครอง

บริษัท ทาเคดา โกลบอล รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ (เอเชีย) จำกัด หรือ TGRD Asia ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท ทาเคดา ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ประกาศว่า บริษัทมีความก้าวหน้าในการขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ในภูมิภาคเอเชีย โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทได้ขอขึ้นทะเบียนยาไปแล้ว 7 ครั้งในประเทศและเขตการปกครองต่างๆ ซึ่งยาเหล่านี้ประกอบด้วย

- azilsartanmedoxomil (รหัสพัฒนา: TAK-491) สำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูง โดยขอขึ้นทะเบียนในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง

- azilsartanmedoxomil with chlorthalidone (รหัสพัฒนา: TAK-491+CLD) สำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูง โดยขอขึ้นทะเบียนในไต้หวัน ไทย และอินโดนีเซีย

- alogliptin (รหัสพัฒนา: SYR-322) สำหรับรักษาโรคเบาหวานชนิดที่2 โดยขอขึ้นทะเบียนในออสเตรเลีย จีนแผ่นดินใหญ่ และเกาหลีใต้

โดยปกติแล้ว หน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพจะอนุมัติการขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ภายในเวลาประมาณ 12-18 เดือน แล้วแต่ประเทศ/เขตการปกครอง

ดร.เจมส์ การ์เนอร์ (Dr James Garner) ผู้จัดการทั่วไป TGRD Asia กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญกับผู้ป่วยมากที่สุด และเรามุ่งมั่นกับการทำให้ผู้ป่วยทั่วโลกมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วยยารักษาโรคที่ทันสมัย เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งกับความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในเอเชีย เนื่องจากภูมิภาคนี้เป็นส่วนสำคัญในแผนธุรกิจของทาเคดา ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เราเพิ่มสัดส่วนคนไข้จากเอเชียที่เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกถึง 4 เท่า และเรากำลังทำการทดลองทางคลินิกในหลายประเทศ/เขตการปกครอง ได้แก่ ออสเตรเลีย จีนแผ่นดินใหญ่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง อินเดีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และประเทศไทย ขณะเดียวกันเราก็กำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานกำกับดูแลและบริษัทในเครือของเราในแต่ละประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยและแพทย์ในเอเชียจะมียาใช้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ในประเทศจีน TGRD Asia ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทาเคดา เซี่ยงไฮ้ ดีเวลลอปเมนท์ เซ็นเตอร์ หรือ TSDC เพื่อดำเนินกิจกรรมการพัฒนาทางคลินิกของทาเคดาในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ ในประเทศจีน TSDC เน้นการพัฒนาทางคลินิกที่ไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง ส่วนทั่วภูมิภาคเอเชียเน้นการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งร่วมกับบริษัทมิลเลนเนียม: เดอะ ทาเคดา ออนโคโลจี คอมพานี

TAK-491 (azilsartanmedoxomil) เป็นยารักษาโรคความดันโลหิตสูงในผู้ใหญ่ซึ่งได้รับการรับรองแล้วในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป TAK-491 เป็นยากลุ่มยับยั้งตัวรับ angiotensin II ที่ช่วยลดความดันโลหิตด้วยการยับยั้งการทำงานของ angiotensin II ซึ่งเป็น vasopressor hormone ที่ทำให้หลอดเลือดตีบ เมื่อตัวรับ angiotensin II ถูกยับยั้ง หลอดเลือดจะขยายและทำให้ความดันโลหิตลดลงได้ TAK-491 เป็นยารับประทานวันละครั้ง โดยสามารถรับประทานเดี่ยวๆหรือทานร่วมกับยาลดความดันตัวอื่นก็ได้

TAK-491+CLD เป็นยารักษาโรคความดันโลหิตสูงเพื่อใช้ลดความดันในผู้ใหญ่เช่นกัน TAK-491+CLD ได้รับการรับรองแล้วในสหรัฐอเมริกา โดยเป็นยาที่ผสม azilsartanmedoxomil (TAK-491) กับ diuretic chlorthalidoneในเม็ดเดียวและรับประทานวันละครั้ง โดย chlorthalidoneจะช่วยลดระดับเกลือและน้ำในร่างกายด้วยการขับปัสสาวะ ซึ่งจะทำให้ความดันโลหิตลดลง เมื่อความดันโลหิตลดลง ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และอาการหัวใจวาย ทั้งที่ถึงชีวิตและไม่ถึงชีวิต ก็จะลดลงตามไปด้วย ผลการศึกษาขั้นที่ 3 แบบเปรียบเทียบกันโดยตรง และใช้ระยะเวลา 12 สัปดาห์ ซึ่งเผยแพร่ออนไลน์ในวารสาร American Heart Association ระบุว่า เมื่อใช้ยา azilsartanmedoxomilร่วมกับ chlorthalidoneในปริมาณ 40/25 มิลลิกรัม ความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวจะลดลงมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการใช้ยา olmesartanmedoxomilร่วมกับ hydrochlorothiazide ในปริมาณ 40/25 มิลลิกรัม ทั้งนี้ TAK-491+CLD เป็นยารักษาโรคความดันโลหิตสูงตัวแรกและตัวเดียวที่ผสมยากลุ่มยับยั้งตัวรับ angiotensin II กับยาขับปัสสาวะ chlorthalidoneไว้ในเม็ดเดียวและรับประทานวันละครั้ง

SYR-322 เป็นยารักษาโรคเบาหวานชนิดที่2 โดยเป็นตัวยับยั้ง dipeptidyl peptidase-IV (DPP-4) และใช้เสริมการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย SYR-322 เลือกยับยั้ง DPP-4 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้สะดวกด้วยการรับประทานเพียงวันละครั้ง SYR-322 ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อชะลอการด้อยประสิทธิภาพของ incretin hormone ได้แก่GLP-1 (glucagon-like peptide-1) และ GIP (glucose-dependent insulinotropic peptide) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด SYR-322 เป็นตัวยับยั้ง DPP-4 เพียงตัวเดียวในปัจจุบันที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ร่วมกับยากลุ่มยับยั้งเอนไซม์ alpha-glucosidaseซึ่งเป็นยาที่ใช้ทั่วไปในญี่ปุ่น จีน และฟิลิปปินส์

เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง

โรคความดันโลหิตสูง เป็นอาการเรื้อรังที่ความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวสูงถึงระดับ 140 มิลลิเมตรปรอทหรือมากกว่านั้น และ/หรือความดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัวอยู่ที่ 90 มิลลิเมตรปรอทหรือมากกว่านั้น การที่ความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวหรือคลายตัวอยู่ในระดับสูงทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ และยิ่งความดันโลหิตสูงก็จะยิ่งมีค่าความเสี่ยงสัมบูรณ์ที่เพิ่มขึ้นต่อมิลลิเมตรปรอทมากขึ้น ดังนั้นการลดความดันโลหิตสูงแม้เพียงปานกลางก็ยังเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยปกติแล้วโรคความดันโลหิตสูงมักไม่แสดงอาการ ผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัยสามารถเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงของการเกิดโรคจะเพิ่มขึ้นตามวัย โดยครึ่งหนึ่งของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นโรคนี้ และคาดว่าผู้ใหญ่ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงจะเพิ่มขึ้นจากราว 972 ล้านคนทั่วโลกในปี 2543 เป็น 1.56 พันล้านคนในปี 2568 (หมายเหตุ 1)

เกี่ยวกับโรคเบาหวานชนิดที่2

โรคเบาหวานชนิดที่2 เป็นเบาหวานที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเป็นโรคเรื้อรังและสามารถลุกลามได้ สาเหตุเกิดจากมีอินซูลินไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกเหนือจากการควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว ผู้ป่วยยังต้องรับประทานยาเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย ทั่วโลกต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคเบาหวานและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆประมาณ 3.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2553 และคาดว่าในปี 2573 ตัวเลขดังกล่าวจะพุ่งทะลุ 4.90 แสนล้านดอลลาร์ (หมายเหตุ 2)

หมายเหตุ

1. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/15652604

2. http://www.idf.org/sites/default/files/Economic_impact_of_Diabetes.pdf

เกี่ยวกับบริษัท ทาเคดา โกลบอล รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เซ็นเตอร์ เอเชีย จำกัด

บริษัท ทาเคดา โกลบอล รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เซ็นเตอร์ เอเชีย จำกัด หรือ TGRD Asia ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ อยู่ในเครือบริษัท ทาเคดา ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ผู้ผลิตเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น TGRD Asia เกิดจากการรวมตัวจนกลายเป็นองค์กรด้านการพัฒนาระดับโลก ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคในด้านการพัฒนาทางคลินิกที่ไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง TGRD Asia พยายามนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและหลากหลายให้แก่ผู้ป่วย ซึ่งรวมถึงการพัฒนายารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเกี่ยวกับการเผาผลาญ โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและภูมิคุ้มกัน โรคระบบประสาทส่วนกลาง วัคซีนต่างๆ ตลอดจนการรักษาโรคอื่นๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทาเคดาได้ที่ www.takeda.com

เกี่ยวกับบริษัท ทาเคดา ฟาร์มาซูติคอล จำกัด

ทาเคดา ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นบริษัทวิจัยระดับโลกที่เน้นวิจัยเกี่ยวกับยารักษาโรค ในฐานะบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นผู้นำรายหนึ่งของโลกในอุตสาหกรรมดังกล่าว ทาเคดามุ่งมั่นกับการทำให้ผู้ป่วยทั่วโลกมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วยยารักษาโรคที่ทันสมัย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทาเคดาได้ทางเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.takeda.com

ติดต่อ

Sheo S. Rai

บริษัท ทาเคดา โกลบอล รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เซ็นเตอร์ (เอเชีย) จำกัด

โทร: +65-6521-2241

อีเมล: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๓๖ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัล Digital Transformation Initiative of the Year 2024 จากเวที Healthcare Asia Awards
๑๒:๐๐ กลับมาอีกครั้งกับงานช้อปอย่างมีสไตล์ รายได้เพื่อชุมชน ครั้งที่ 14 เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ชวนมาช้อป ชม ของดี ของเด็ดประจำจังหวัดปทุมธานี ระหว่าง 4 - 10
๑๒:๓๙ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมพลศึกษา จัดแข่งขันกีฬากระบี่กระบองระหว่างโรงเรียน กิจกรรมสร้างสรรค์เสริมทักษะเยาวชน ส่งเสริม SOFT POWER
๑๑:๑๕ TOA ย้ำแชมป์สีเบอร์หนึ่ง คว้า 2 รางวัลใหญ่ 'สุดยอดองค์กร และแบรนด์สีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นมากที่สุด' 13 ปีซ้อน Thailand's Most Admired Company Brand ปี
๑๑:๔๒ ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์
๑๑:๕๘ ศิษย์เก่าวิศวฯ SPU กว่า 5 ทศวรรษ ร่วมย้อนวันวานในงาน วิศวฯ คืนถิ่น SEAN HOMECOMING 2024
๑๑:๑๓ เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่น ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2567
๑๑:๔๕ YouTrip สาดความคุ้มต้อนรับสงกรานต์กับ 2 โปรพิเศษ 4.4 Travel Sale และ Japan Mega Cashback รับส่วนลดสุดคุ้มจากแบรนด์ท่องเที่ยวดัง และเงินคืนสูงสุด 2,000
๑๑:๕๒ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รามคำแหง เชิญเข้าร่วมงานสัมมนาวิชา อนาคตเศรษฐกิจไทย: ยืดหยุ่นและยั่งยืน
๑๑:๑๐ เจแอลแอล ประเทศไทย เผยเทรนด์ ESG ของปี 2567 และเป้าหมายสู่อุตสาหกรรมสีเขียวของวงการอสังหาฯ