นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า โครงการนี้ต่อยอดมาจากโครงการ “เติมน้ำใจให้เต็มกับ ธอส.” ที่จัดเมื่อปี 2553 โดยจัดสร้างแท็งค์น้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก รูปทรง 16 เหลี่ยมขนาดใหญ่ ทนทานแข็งแรง บรรจุน้ำได้ถึง 36,000 ลิตร จำนวน 14 แท็งค์ ให้แก่พื้นที่ 7 จังหวัดทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบภัยแล้ง ปรากฏว่า ประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากประชาชนผู้ประสบภัยแล้งในท้องถิ่นต่าง ๆ จนนำมาสู่โครงการต่อมาคือ โครงการ 84 พรรษา 84 ถังน้ำใจ ถวายในหลวง” โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 เดินหน้าปฏิบัติการมอบแท็งค์น้ำให้แก่ 84 ชุมชน ที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่ 40 จังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาค โดยจัดพิมพ์พระบรมสาทิสลักษณ์ไว้บนแท็งค์น้ำ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษาอีกด้วย
“ครั้งนี้ธนาคารได้รับเกียรติจาก นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีส่งมอบแท็งค์น้ำ ให้แก่ ชุมชนวัดสุดสวาสดิ์ ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นชุมชนแห่งที่ 84 เป็นการปิดท้ายโครงการแห่งสุดท้าย เพื่อช่วยเหลือชาวชุมชนเมืองสองแควและพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมผู้แทนจากจังหวัดต่าง ๆ ที่จะมาร่วมรับมอบแท็งค์น้ำ จำนวน 14 แท็งค์ในครั้งนี้ด้วย ถือว่าโครงการ 84 พรรษา 84 ถังน้ำใจ ถวายในหลวง นี้ประสบความสำเร็จเกินคาด เนื่องจากมีประชาชนให้การตอบรับอย่างกว้างขวาง เพราะเข้าถึงพื้นที่เดือดร้อนมากขึ้น จากจำนวนแท็งค์น้ำที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งแท็งค์น้ำที่ได้รับเป็นประโยชน์แก่ชุมชนอย่างแท้จริง เนื่องจากทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน เป็นการบรรเทาปัญหาการขาดแหล่งกักเก็บน้ำทั้งการอุปโภคและบริโภคได้อย่างตรงจุด กล่าวได้ว่า ทุกครั้งที่มีการจัดพิธีมอบแท็งค์น้ำในจัดหวัดต่าง ๆ ที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดทุกครั้ง นั่นคือ เรามองเห็น รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสุขที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของทุกคนที่เข้าร่วมงาน ตลอดจนการต้อนรับที่อบอุ่น ซึ่งเป็นกำลังใจอย่างดี” นายวรวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ นายวรวิทย์ ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปี ในแทบทุกภูมิภาคของประเทศไทย เนื่องจากชุมชนยังไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำที่ดีพอ จึงทำให้ประชาชนประสบปัญหาด้านการขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคและบริโภค เป็นสิ่งที่ ธอส.ตระหนักมาโดยตลอด ในฐานะที่ธนาคารฯ เป็นหน่วยงานหนึ่งของภาครัฐที่มีศักยภาพและความพร้อมหลายด้าน จึงต้องการช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาปัญหานี้อย่างเต็มที่ จึงพร้อมเดินหน้าสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ เพื่อร่วมสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งของพันธกิจสำคัญของธนาคารฯ นอกเหนือจากตอบสนองนโยบายด้านที่อยู่อาศัยของภาครัฐที่มุ่งเน้นกลุ่มฐานรากของประเทศ ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูข่าวสารกิจกรรมและความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของธนาคารได้ที่ http://www.ghbank.co.th
สำหรับชุมชน วัดสุดสวาสดิ์ ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ชุมชนแห่งสุดท้ายลำดับที่ 84 นับว่าเป็นอีกชุมชนหนึ่งที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติและการขาดแคลนน้ำอย่างมาก โดยพื้นที่นี้มีประชากรในเขต อบต.ทั้งสิ้น 11,960 คน หรือ 4,368 หลังคาเรือน โดยอาชีพหลักของชาวบ้าน คือทำเรือกสวนไร่นา เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การทำการเกษตร แต่ปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์เปลี่ยนไป เพราะนำมาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ร้านค้า ฯลฯ มากกว่า จึงมีการถมคลองต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นถนนแทน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้อาสาเข้ามาช่วยเหลือด้านการกักเก็บน้ำ โดยการจัดสร้างแท็งค์น้ำให้กับวัดสุดสวาสดิ์ เพื่อได้เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ต่อไป