1. การหารือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท S&P’s และ Moody’s Investor Services เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันในเชิงลึกเกี่ยวกับภาคเศรษฐกิจในด้านต่างๆ นโยบายของรัฐบาล รวมถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในอนาคต เพื่อสะท้อนให้บริษัทฯ เห็นว่าพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งและสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต โดยจะเห็นได้จากระดับทุนสำรองเงินตราที่สูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นถึง 3.6 เท่า อัตราการว่างงานและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากผลกระทบของวิกฤติSubprime ในปี 2552 และการเกิดอุทกภัยในปี 2554 ซึ่งในปัจจุบันตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ อยู่ในเกณฑ์สูงกว่าค่ากลางของประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในกลุ่ม A ในขณะที่ในปัจจุบันประเทศไทยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเพียงในระดับ BBB+
2. การหารือร่วมกับ Japan International Cooperation Agency (JICA) เกี่ยวกับแนวทาง
การบริหารจัดการหนี้เงินกู้สกุลเงินเยนของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ความร่วมมือในการบริหารจัดการโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
3. การหารือกับผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการเงิน (Director General of Financial Bureau) กระทรวงการคลังญี่ปุ่น โดยตกลงที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ทางด้านการบริหารจัดการหนี้และการบริหารเงินสด
4. การหารือกับสถาบันการเงินต่างๆ อาทิ HSBC Mitsubishi UFJ Nomura Daiwa Standard Chartered Sumitomo เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของไทย ภาวะตลาดการเงินโลก และวิกฤติหนี้ในยุโรป รวมถึงความร่วมมือในการบริหารความเสี่ยงหนี้ต่างประเทศ และการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย
สำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
โทร 0 2265 8050 ต่อ 5511