นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดงานเฉลิมฉลองหอการค้าไทย ครบ 80 ปี จัดขึ้นวันที่ 16-23 พ.ย.2555 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ถือเป็นการจัดงานครั้งใหญ่ ในรอบหลายปีของหอการค้าไทย โดยการเฉลิมฉลอง
ในครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.การเฉลิมฉลอง (Celebration) ซึ่งส่วนนี้จะเป็นการจัดงานเลี้ยงฉลองสนุกสนานแบบย้อนยุค 2.ส่วนการสัมมนาวิชาการ (Symposium) ซึ่งจะใช้โอกาสนี้จัดประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 30 และ 3.ส่วนการแสดงสินค้า (Exhibition) ใช้ชื่องาน "TCC EXPO 2012" ภายใต้แนวคิด “ที่สุดแห่งสยาม” เพราะรวบรวมความเป็นที่สุดเพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทย
“การดำเนินงานของหอการค้าไทยในปัจจุบัน ได้ดำเนินนโยบายตามแนวทางหลัก 5 ประการ ได้แก่ ลดความเหลื่อมล้ำ ชี้นำเศรษฐกิจ ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น สร้างสรรค์สังคมไทย และก้าวไกลสู่สากล ดังนั้น การจัดงานฉลองครบ 80 ปี ในครั้งนี้ จึงมิใช่เพียงการจัดงานแสดงสินค้า หรือการเฉลิมฉลองเท่านั้น แต่จะเป็นการแสดงบทบาทในฐานะที่เป็นองค์กรหลักทางด้านเศรษฐกิจของประเทศต่อสาธารณชน เพื่อเป็นแนวทางให้กับภาคธุรกิจของประเทศได้นำไปปรับใช้ เพื่อเตรียมรับมือกับภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และรองรับการเกิดของของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคต” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
นายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการจัดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 30 ว่า แนวคิดหลักที่หอการค้าไทยจะนำเสนอในครั้งนี้ คือ “การพัฒนาให้มีการเจริญเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน ภายใต้แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง: ทางออกของสังคมโลก” (Sufficiency Economy for Sustainable and Balanced Growth: Solution to the World) โดยนอกจากจะมีการกล่าวสุนทรพจน์จากประธานกรรมการหอการค้าไทยแล้ว ยังจะมีการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ภูฏาน: การพัฒนาประเทศที่มุ่งเน้นความสุขมวลรวมประชาชาติ” (Gross National Happiness—GNH) โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีภูฏาน (Lyonchoen Jigmi Y Thinley) และการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ทิศทางการพัฒนาให้มีการเจริญเติบโต อย่างสมดุลและยั่งยืน ภายใต้แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง:ทางออกของสังคมโลก” โดย ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD)
นอกจากนั้นแล้ว หอการค้าไทยยังได้เพิ่มการสัมมนาวิชาการ (Symposium) ต่อเนื่องจากการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ โดยยึด 5 แนวทางหลักที่หอการค้าไทยได้กำหนดไว้ ได้แก่ ลดความเหลื่อมล้ำ ชี้นำเศรษฐกิจ ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น สร้างสรรค์สังคมไทย และก้าวไกลสู่สากล โดยแนวทางทั้งหมดนี้จะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปสู่ความสมดุลและยั่งยืน พร้อมต่อยอดด้วยการนำเสนอแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็นทางออกของสังคมโลกในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ
พร้อมกันนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงานในส่วนสัมมนาวิชาการ ได้มีการจัดทำดัชนีชี้วัดความยั่งยืน (Sustainability Index) ซึ่งจะเป็นดัชนีที่ชี้ให้เห็นถึงความอยู่รอดของประเทศไทย เพราะการวัดความเจริญเติบโตของประเทศผ่านตัวเลข GDP เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเป็นความมั่นคงและยั่งยืนทางเศรษฐกิจของประเทศได้ในอนาคต
อีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญ คือในส่วนการแสดงสินค้า "TCC EXPO 2012" ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด“ที่สุดแห่งสยาม” นั้น นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ไฮไลต์ในส่วนนี้ คือ การรวบรวมความเป็นที่สุดจากบริษัทของคณะกรรมการ และสมาชิกผู้ประกอบการต่าง ๆ กว่า 800 ราย บนพื้นที่กว่า 6 หมื่นตารางเมตร เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ อาทิ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น เมืองไทยประกันชีวิต ไทยเบฟเวอเรจ มิตรผล เครือเจริญโภคภัณฑ์ เครือสหพัฒน์ เอสซีจี ปตท. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยทียูเอฟ ธนาคารกรุงเทพ ไทยพาณิชย์ และกรุงไทย เป็นต้น ตั้งเป้าว่าจะมีคนมาเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน
สิ่งที่ถือว่าเป็นที่สุดของงานแสดงสินค้าครั้งนี้ คือ นิทรรศการ "ยอดกษัตริย์" (Royal Pavilion) ซึ่งจะแสดงถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้รับความกรุณาจากมูลนิธิชัยพัฒนา และ กปร. ร่วมจัดแสดงโครงการต่าง ๆ ในพระราชดำริ ภายใต้บรรยากาศจำลองของพระราชวังสวนจิตรลดาให้กับผู้เข้าร่วมชมงานได้ชื่นชม รวมถึงนิทรรศการที่สุดแห่งผู้นำภาคธุรกิจสยาม (TCC Pavilion) พร้อมด้วยการแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการชั้นนำอีกเป็นจำนวนมาก
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวปิดท้ายว่า หอการค้าไทยมีความศรัทธาและเชื่อมั่นในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นอย่างมาก และจะพยายามผลักดันแนวคิดดังกล่าวให้เป็นต้นแบบกับผู้ประกอบการไทย ได้นำมาใช้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความสมดุลและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจไทย พร้อมต่อยอดและผลักดันให้เป็นต้นแบบที่ใช้ได้จริงทั่วโลก ซึ่งตลอดระยะเวลา 80 ปีที่ผ่านมา หอการค้าไทยได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการเป็นสถาบันที่เป็นผู้นำของภาคธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ และมีความเข้มแข็ง ด้วยเครือข่ายที่มีอย่างกว้างขวาง เห็นได้จากจำนวนสมาชิกทั้งเครือข่ายที่มีมากกว่า 60,000 ราย ถือว่าเป็นเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาไทย ให้ก้าวสู่สากลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป
สำหรับบทบาทด้านเศรษฐกิจและสังคมของหอการค้าไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่มีพัฒนาการที่โดดเด่น อาทิ การจัดทำแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจฉบับภาคเอกชน เพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลและผู้ประกอบการในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การเป็นแกนนำในการจัดตั้งภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น โครงการ 1 แสน 1 ไร่ เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำของการกระจายรายได้ ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาสังคม รวมถึงการจัดศูนย์ AEC Prompt เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีความเข้มแข็งและขยายธุรกิจเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างมั่นใจ นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว