ผลสำรวจทั่วโลกเผย บริษัทที่สนใจใช้ระบบคลาวด์ต้องการผู้วางระบบที่เชื่อถือได้

พฤหัส ๑๕ พฤศจิกายน ๒๐๑๒ ๑๓:๓๕
ผลสำรวจเผยให้เห็นว่าองค์กรกว่า 40% กำลังใช้ระบบคลาวด์แบบลูกผสม (hybrid cloud) ตอกย้ำว่าบริษัทเหล่านี้ต้องการผู้วางระบบนิเวศคลาวด์ (cloud ecosystem) ที่เชื่อถือได้

อินโฟซิส (Infosys) ผู้นำระดับโลกด้านการให้คำปรึกษาและเทคโนโลยี เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นทั่วโลกที่จัดทำโดย IDC ซึ่งบ่งชี้ว่ามีองค์กรกว่า 40% ที่กำลังใช้ระบบคลาวด์แบบลูกผสม และหลายบริษัทแสดงเจตจำนงว่าต้องการผู้วางระบบจากภายนอกองค์กรที่เชื่อถือได้ เพื่อช่วยจัดการกับความซับซ้อนในการย้ายมาใช้ระบบคลาวด์

(ภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20121114/573971 )

ผลสำรวจดังกล่าวปรากฏอยู่ในสมุดปกขาวของ IDC ชื่อ “Adoption of Cloud: Private Cloud is Current Flavor but Hybrid Cloud is Fast Becoming a Reality” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอินโฟซิส การสำรวจครั้งนี้จัดทำโดย IDC และเผยแพร่เมื่อเดือนกันยายน 2555 โดยเป็นการสำรวจความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านไอทีที่มีอำนาจในการตัดสินใจจากองค์กรขนาดใหญ่ 326 แห่งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี

ระบบนิเวศคลาวด์มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีการผสมผสานกันระหว่างคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว และโครงสร้างไอทีแบบ on-premise หลายบริษัทในการสำรวจครั้งนี้กล่าวว่า การพัฒนาความเชี่ยวชาญในการเฝ้าสังเกตสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนเหล่านี้และบริหารจัดการอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมากสำหรับองค์กร

ราว 56% ของผู้ตอบแบบสอบถามกำลังประสานงานหรือคิดจะประสานงานกับผู้ให้บริการจากภายนอกองค์กร เพื่อทำความเข้าใจว่าจะกำหนดกลยุทธ์ วางโร้ดแม็ป และใช้งานระบบคลาวด์อย่างไร หลายบริษัทในการสำรวจเน้นย้ำว่าต้องการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเหล่านี้ เพื่อจัดการกับความซับซ้อนอันเป็นผลมาจากการสร้างและบริหารระบบคลาวด์แบบลูกผสม

นอกจากนั้นผลสำรวจยังชี้ว่า การเปิดรับระบบคลาวด์และการใช้งานคลาวด์แบบลูกผสมมีความแตกต่างกันในแต่ละอุตสาหกรรม โดยองค์กรราว 53% ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีการกำหนดกลยุทธ์และโร้ดแม็ปคลาวด์อย่างเป็นระเบียบแบบแผน เทียบกับ 38% ในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน ส่วนในแง่ของการใช้คลาวด์แบบลูกผสมนั้น องค์กรกว่า 64% ในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินวางแผนว่าจะใช้ ตามมาด้วยอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ (47%), อุตสาหกรรมการผลิต (40%) และอุตสาหกรรมค้าปลีก (37%)

ราว 52% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า “การเลือกผู้วางระบบคลาวด์ที่ดีที่สุดและมั่นใจว่าผู้ให้บริการเหล่านี้ทำงานสอดคล้องกลมกลืนกัน” มีความสำคัญมาก และ 14% กล่าวว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ขณะเดียวกันบริษัทเกือบ 48% ให้ความสำคัญมากกับ “ความปลอดภัยข้อมูล ตลอดจนการเชื่อมโยง ระบบอัตโนมัติ และการผสมผสานการใช้งานระหว่างคลาวด์ส่วนตัว คลาวด์สาธารณะ และโครงสร้างไอทีแบบ on-premise”

คลาวด์ส่วนตัวยังเป็นตัวเลือกลำดับแรก โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 69% วางแผนที่จะใช้คลาวด์ส่วนตัว ส่วนเหตุผลหลักที่ทำให้หลายบริษัทเลือกใช้คลาวด์คือ ผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนที่ลดลง (37% และ 25% ตามลำดับ)

วิษณุ พัต (Vishnu Bhat) รองประธานและหัวหน้าระดับโลกฝ่ายบริการคลาวด์ บริษัทอินโฟซิส กล่าวว่า “ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าคลาวด์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่การนำระบบคลาวด์มาใช้อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับองค์กร บริษัทที่ฉลาดจึงต้องการผู้วางระบบนิเวศคลาวด์ที่เชื่อถือได้มาเป็นผู้นำทาง”

เดวิด แทปเปอร์ (David Tapper) รองประธาน IDC Outsourcing Services Research กล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่าหลายองค์กรให้ความสนใจมากขึ้นในการลงทุนใช้ระบบคลาวด์ แต่มีผู้ให้บริการวางระบบจำนวนมากและสภาพแวดล้อมของคลาวด์แบบลูกผสมก็มีความซับซ้อน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับองค์กรเกือบทุกแห่งในการบริหารและควบคุมส่วนต่างๆของระบบนิเวศคลาวด์ ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความยืดหยุ่นในการเลือกใช้บริการคลาวด์ที่ดีที่สุด การสำรวจครั้งนี้บ่งชี้ว่าหลายบริษัทต้องการร่วมมือกับผู้วางระบบนิเวศคลาวด์ที่เชื่อถือได้ เพื่อให้การลงทุนวางระบบคลาวด์มีความคุ้มค่าที่สุด”

สามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ http://www.infosys.com/cloud/features-opinions/Pages/index.aspx

เกี่ยวกับอินโฟซิส

อินโฟซิสจับมือกับองค์กรธุรกิจทั่วโลกเพื่อผลักดันการเติบโตขององค์กรเหล่านั้นด้วยนวัตกรรม เหตุผลดังกล่าวส่งผลให้นิตยสารฟอร์บสจัดอันดับให้อินโฟซิสอยู่ในอันดับที่ 19 ในรายชื่อ 100 บริษัทที่มีนวัตกรรมสูงที่สุด ในฐานะผู้นำด้านการให้คำปรึกษา เทคโนโลยี และโซลูชั่นการเอาท์ซอร์สที่ล้ำสมัย อินโฟซิสช่วยให้ลูกค้าในกว่า 30 ประเทศบรรลุเป้าหมายขององค์กร สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.infosys.com เพื่อศึกษาว่าอินโฟซิส (NASDAQ: INFY) และพนักงานกว่า 150,000 คนสร้างองค์กรแห่งอนาคต [Building Tomorrow’s Enterprise(R)] ในปัจจุบันได้อย่างไร

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ (Safe Harbor)

ข้อความบางส่วนในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ที่เกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวในอนาคตของอินโฟซิสถือเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจส่งผลให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงนั้นแตกต่างไปจากข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในแถลงการณ์นี้ประกอบไปด้วย ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากความผันผวนของรายได้ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความสามารถของอินโฟซิสในการบริหารการเติบโต ความรุนแรงของการแข่งขันในการให้บริการด้านไอทีซึ่งรวมไปถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อความได้เปรียบด้านต้นทุนของอินโฟซิส การปรับเพิ่มค่าแรงในอินเดีย ความสามารถของอินโฟซิสในการดึงดูดและดึงพนักงานที่มีทักษะสูงไว้กับบริษัท ระยะเวลาและต้นทุนในการดำเนินการตามสัญญาที่กำหนดกรอบเวลาและราคาที่ชัดเจน การเล็งเห็นความสำคัญของลูกค้า การควบคุมการตรวจคนเข้าเมือง การให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรม ความสามารถของอินโฟซิสในการดำเนินงานในต่างประเทศ อุปสงค์ด้านไอทีที่ลดลงในพื้นที่สำคัญที่อินโฟซิสดำเนินงาน ภาวะติดขัดหรือความล้มเหลวของโครงข่ายโทรคมนาคม ความสามารถของอินโฟซิสในการรวมระบบที่ซื้อเพิ่มมาใหม่และการซื้อกิจการใหม่ หนี้สินที่เกิดจากความเสียหายจากการให้บริการตามสัญญาของอินโฟซิส ความสำเร็จของบริษัทที่อินโฟซิสได้เข้าไปลงทุนเชิงกลยุทธ์ การยกเลิกหรือการหมดอายุของมาตรการสร้างแรงจูงใจทางการคลังของรัฐบาล ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองและความขัดแย้งในภูมิภาค ข้อจำกัดทางกฎหมายในการเพิ่มทุนหรือการซื้อกิจการภายนอกประเทศอินเดีย และ การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของอินโฟซิสและภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอที สำหรับความเสี่ยงเพิ่มเติมที่อาจมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของอินโฟซิสได้อธิบายอย่างละเอียดในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ ซึ่งรวมไปถึงรายงานประจำปี Form 20-F สำหรับปีงบการเงินสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2555 และ Form 6-K สำหรับไตรมาสสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554, 30 มิถุนายน 2555 และ 30 กันยายน 2555 สามารถดูรายละเอียดของเอกสารเหล่านี้ได้ที่ http://www.sec.gov อินโฟซิสอาจปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรหรือทางวาจา ซึ่งรวมไปถึงข้อความในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และในรายงานต่อผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ดี อินโฟซิสไม่มีภาระผูกพันที่จะต้องปรับปรุงเนื้อหาของข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าให้ทันสมัยตลอดเวลาโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท

กรุณาติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่

เอเชียแปซิฟิก

อภิจิต คาร์ธีเคยา ดี (Abhijith Karthikeya D)

อินโฟซิส, อินเดีย

โทร: +91-80-41563373

อีเมล: [email protected]

ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

พอล ดี ลาร่า (Paul De Lara)

อินโฟซิส, สหราชอาณาจักร

โทร: +44-2075162748

อีเมล: [email protected]

ทวีปอเมริกา

แดเนียล แดงเจโล (Danielle D'Angelo)

อินโฟซิส, สหรัฐอเมริกา

โทร: +1-510-859-5783

อีเมล: [email protected]

ออสเตรเลีย

คริสติน บาล็อก (Cristin Balog)

อินโฟซิส, ออสเตรเลีย

โทร: +61-3-9860-2277

อีเมล: [email protected]

แหล่งข่าว: อินโฟซิส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๐๔ กลุ่ม KTIS จับมือ Marubeni ประสานความร่วมมือในการขายเครดิตพลังงานหมุนเวียน (REC)
๑๔:๒๐ ผู้ถือหุ้น TIDLOR อนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด อัตรา 27 หุ้นสามัญ : 1 หุ้นปันผล พร้อมจ่ายเงินสด 0.2698 บ./หุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 24 เม.ย. 67 รับทรัพย์ 14
๑๔:๔๙ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว โครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย
๑๔:๑๐ สสวท. เติมความรู้คู่กีฬากับ เคมีในสระว่ายน้ำ
๑๓:๐๓ ฉุดไม่อยู่! ซีรีส์ Kiseki ฤดูปาฏิหาริย์ กระแสแรง ขึ้น TOP3 บน Viu ตอกย้ำความฮอต
๑๔:๒๔ TM บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุพระราม 9
๑๔:๑๒ ผถห. JR อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น พร้อมโชว์ Backlog แน่น 9,243 ลบ.
๑๔:๕๐ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ
๑๔:๓๔ ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 10,524 ล้านบาท
๑๔:๑๔ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ