จากการสำรวจ พบว่า ประชาชน ร้อยละ 54.38 ระบุว่าซื้อหวย และร้อยละ 49.78 ไม่ได้ซื้อ ทั้งนี้ ในจำนวนประชาชนที่ซื้อหวย ร้อยละ 49.78 ระบุว่า ซื้อทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยใต้ดิน รองลงมา ร้อยละ 42.02 ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเพียงอย่างเดียว และร้อยละ 8.20 ซื้อหวยใต้ดินเพียงอย่างเดียว
เมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการล๊อคผลสลากกินแบ่งรัฐบาล พบว่า ประชาชน ร้อยละ 50.24 เชื่อว่ามีการล๊อค เพราะมักจะออกเลขคู่หรือเลขเบิ้ล และมีกระแสข่าวพูดถึงเรื่องการล๊อคหวยอยู่ตลอด และร้อยละ 49.76 เชื่อว่าไม่มีการล๊อค เพราะมีการถ่ายทอดสด น่าจะมีการควบคุมเป็นอย่างดี และแสดงถึงความโปร่งใสในการออกผลรางวัล และเมื่อวิเคราะห์ความคิดเห็นของประชาชนจำแนกตามพฤติกรรมการเล่นหวย พบว่า ประชาชนที่เล่นหวยร้อยละ 61.79 เชื่อว่ามีการล๊อคผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ในขณะที่ ร้อยละ 38.21 เชื่อว่าไม่มีการล๊อค สำหรับกลุ่มที่ไม่ได้เล่นหวย ร้อยละ 36.47 เชื่อว่ามีการล๊อค ในขณะที่ ร้อยละ 63.53 เชื่อว่าไม่มีการล๊อค
รองศาสตราจารย์ ดร. พรเพ็ญ วรสิทธา อาจารย์ประจำคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับผลการสำรวจในครั้งนี้เพิ่มเติมว่า “การล๊อคหวยเป็นกระแสที่พูดถึงกันในกลุ่มผู้ซื้อหวย ซึ่งสามารถคิดได้หลายมุมมอง บางคนก็คิดว่าเป็นการสร้างกระแสเพื่อกระตุ้นให้คนซื้อหวยกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็คิดว่าอาจจะมีการล๊อคหวยจริงๆ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง นโยบายประชานิยม คล้ายๆกับการปั่นกระแสหุ้น แต่ก็ไม่ควรจะกล่าวโดยที่ไม่มีหลักฐาน ซึ่งอาจจะกลายเป็น Type of Error (การตัดสินใจที่ผิดพลาดและไม่ตรงกับความเป็นจริง) แต่นั่นก็เป็นความเห็นของประชาชน ดังนั้นรัฐบาลควรเพิ่มความโปร่งใสในขั้นตอนการออกผลรางวัล และควรถ่ายทอดสดทุกครั้ง ทั้งนี้ตนมีแนวคิดในเปลี่ยนจากการเล่นหวยเป็นเงินออม โดยเฉพาะการออมออนไลน์ เพื่อให้กลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยได้มีเงินออม อย่างไรก็ตามการล๊อคหวยจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อหวยหรือไม่ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่น่าสนใจที่ควรทำการศึกษาต่อไป ”