นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ระยะนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติในหลายรูปแบบ โดยในพื้นที่ภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอากาศเย็น รวมถึงบางพื้นที่ยังประสบปัญหาไฟป่าและได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองและหมอกควัน ขณะที่หลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือประสบภัยแล้งรุนแรงหลายจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติในเชิงรุก ตามหลัก 2P 2R นโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรีและมาตรฐานการบริหารจัดการสาธารณภัยระดับสากล เน้นมาตรการเชิงป้องกันทุกรูปแบบ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง จัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย ยึดการสั่งการแก้ไขปัญหาตามระบบ Single Command
ดำเนินการในรูปแบบศูนย์สั่งการแบบเบ็ดเสร็จ
รวมถึงเชื่อมโยงการแก้ไขปัญหาในมิติเชิงพื้นที่ (Area Approach) ให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงและลักษณะภูมิศาสตร์ของแต่ละพื้นที่ โดยเน้นการสนธิกำลังทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และควบคุมสถานการณ์ให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้
ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ สามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป