สร้างองค์กรสำหรับทศวรรษหน้า สร้างผู้นำด้วยกฎแห่งนวัตกรรม

พฤหัส ๒๘ มีนาคม ๒๐๑๓ ๑๐:๔๕
เมื่อกฏเกณฑ์ต่างๆได้เปลี่ยนไป ผู้นำชาวเอเชียจึงจำเป็นต้องคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ มาเปลี่ยนเกมการบริหารเพื่อให้องค์กรประสบความสำเร็จ

สังคมที่มีความเป็นโลกาภิวัฒน์มากขึ้นทุกวันนั้น ส่งผลให้ธุรกิจต้องก้าวไปสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติมากขึ้นและเกิดตลาดที่มีความหลากหลายมากขึ้น การพัฒนาของประเทศอินเดียและประเทศจีนได้เปลี่ยนอิทธิพลทางเศรษฐกิจให้มาอยู่ที่ทวีปเอเชียและได้เปลี่ยนโฉมหน้าของโลกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ฝั่งตะวันตกมีจำนวนการจ้างงานลดลง เหล่าผู้นำในฝั่งตะวันออกซึ่งกำลังขยายธุรกิจไปในตลาดใหม่ๆ จึงต้องเรียนรู้ที่จะบริหารงานในตลาดใหม่ที่อาจขยายไปทางฝั่งตะวันตก

การหลอมรวมของเทคโนโลยีและวิวัฒนาการของสังคมออนไลน์ได้เพิ่มความคาดหวังของลูกค้าต่อการให้บริการ ลูกค้าในปัจจุบันคาดหวังการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อข้อสงสัยต่างๆ รวมไปถึงต้องการการมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในธุรกิจ เช่น ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร

นอกจากนั้นแล้ว พัฒนาการการหลอมรวมของเทคโนโลยีจะลดเส้นแบ่งระหว่างชีวิตส่วนตัวกับการงานมากขึ้นเรื่อยๆ โลกธุรกิจก้าวไปสู่การทำงานแบบออนไลน์มากขึ้น พนักงานก็มีอำนาจในการต่อรองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพนักงานยุคใหม่ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี โดยพนักงานเหล่านี้สามารถเลือกที่จะทำงานจากที่ใดก็ได้ อย่างไรก็ตาม แม้เทคโนโลยีสามารถช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ แต่การที่คนสายพันธุ์ดิจิตอลเชื่อมั่นในเทคโนโลยีมากเกินไปและขาดทักษะทางสังคมส่งผลให้เขาเหล่านั้นขาดความพร้อมในการเป็นผู้นำเช่นกัน

ดังนั้นคนเก่งจะยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรและการรักษาพนักงานที่มีทักษะที่องค์กรต้องการนั้นก็ถือเป็นความท้าทาย กลุ่มคนรุ่นใหม่ในเอเชียกำลังประสบปัญหาความท้าทายในภาวะผู้นำอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะทำอย่างไรเพื่อจัดการและจูงใจคนสายพันธุ์ “ฉัน” (Generation “Me”) เพื่อสร้างกลุ่มผู้นำรุ่นต่อไป การที่องค์กรต่างๆ มุ่งสู่ตลาดเอเชียนั้นถูกท้าทายด้วยความคาดหวังที่สูงขึ้น ความเสี่ยงทางธุรกิจที่มากขึ้น และตลาดคู่แข่งที่เข้มแข็งมากขึ้น ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของความขาดแคลนทางทรัพยากรทางยุทธศาสตร์ เช่น น้ำ แร่ธาตุ โลหะ และน้ำมัน อาจทำให้เกิดการขึ้นราคาสินค้า และนำไปสู่ความไม่มั่นคงทางสังคม

วิธีเดียวที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จในสังคมปัจจุบันที่วงจรเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีการติดต่อสื่อสารในโลกดิจิตอลที่ไม่เคยหยุดพักนั้น คือการสรรค์สร้างนวัตกรรม ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ สำหรับลูกค้าเท่านั้น แต่รวมไปถึงวิธีที่องค์กรปฏิบัติและใช้จูงใจพนักงาน วิธีเตรียมพร้อมผู้นำ และวิธีบริหารจัดการธุรกิจด้วย แม้นวัตกรรมดูจะเป็นเรื่องง่าย ความท้าทายอยู่ที่การผลักดันเพื่อให้เกิดการนำไปใช้จริงและการสร้างให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กร

ธุรกิจแห่งการสรรค์สร้างนวัตกรรม

แม้ว่าจะไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรม แต่ผลการศึกษาของ “บริษัทเฮย์กรุ๊ป” แสดงให้เห็นถึงวิธีปฏิบัติขององค์กรชั้นนำในตลาดได้นำไปใช้ส่งเสริมและกระตุ้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้

บริษัท เฮย์กรุ๊ป ได้ระบุเทคนิคสี่ประการที่องค์กรพึงมีเพื่อสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมที่มีคุณค่าและทำให้นวัตกรรมนั้นเกิดความยั่งยืน ดังนี้

1. ส่งเสริมความคล่องตัว

องค์กรที่มีความกระฉับกระเฉงและคล่องตัวจะสามารถตอบสนองต่อความท้าทายต่างๆ ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ดีกว่า และสามารถใช้ผลประโยชน์จากความสำเร็จขององค์กรอย่างเต็มที่ องค์กรที่ดีจึงควรวางโครงสร้างองค์กรโดยคำนึงถึงความรวดเร็วและความยืดหยุ่น

2. สร้างสรรค์ความเข้าใจ

นวัตกรรมที่ดีจำเป็นต้องมีความเข้าใจพื้นฐานในความต้องการลูกค้า และพร้อมเสี่ยงที่จะทบทวนนวัตกรรมนั้นใหม่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง องค์กรที่ดีต้องสร้างและผลักดันให้พนักงานเกิดเข้าใจในความต้องการของลูกค้าและสนับสนุนวิธีการใหม่ๆ เพื่อจัดการกับลูกค้า

3. เสริมสร้างมุมมองใหม่ๆ ที่เปิดกว้าง

มุมมองที่แปลกและใหม่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรม องค์กรที่ดีควรกระตุ้นให้เกิดการยอมรับวัฒนธรรมและมุมมองที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุคน รวมทั้งสนับสนุนให้พนักงานของตนเปิดใจยอมรับในมุมมองใหม่ๆ

4. สนับสนุนและให้รางวัลในความร่วมมือ

หากนวัตกรรมเป็นผลิตภัณฑ์จากมุมมองที่แตกต่าง ความร่วมมือก็เป็นวิธีการที่จะดึงมุมมองต่างๆ ออกมาใช้ร่วมกัน องค์กรที่ดีไม่เพียงแค่บอกกล่าวให้พนักงานสร้างความร่วมมือเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการสร้างความร่วมมือด้วยการให้รางวัลแก่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือนั้นด้วย

“สิ่งสำคัญคือการสร้างบรรยากาศ สภาพแวดล้อม และการวางกลไกที่เชื่อมโยงกัน ที่ส่งเสริมและสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ การแสวงหาทางแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ .. ที่กระตุ้นให้พนักงานไม่กลัวความล้มเหลว มีความกล้าเสี่ยง ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง และสามารถตอบสนองความเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ .. ที่สนับสนุน ฝึกฝนให้พนักงานกล้าเสี่ยง และจัดการกับความเสี่ยงนั้นด้วยความรอบคอบ” ปุณยชา เตพละกุล ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัทเฮย์กรุ๊ป กล่าว

บทเรียนในการสร้างผู้นำแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรม

ในการบริหารองค์กรระดับโลก ผู้นำชาวเอเชียต้องกำหนดทิศทางและวิธีปฏิบัติเพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม ความเข้าใจในรูปแบบและภาวะผู้นำของผู้นำแต่ละคน และระบบการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ที่สามารถก้าวขึ้นมาแทนได้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องมี แต่นั่นยังไม่เพียงพอสำหรับความสำเร็จอย่างยั่งยืนในหน้าเศรษฐกิจยุคใหม่

ผลการวิจัยของบริษัท เฮย์กรุ๊ป แนะนำบริษัทในเอเชียในการประยุกต์ Best practice ของแต่ละบริษัทชั้นนำดังต่อไปนี้

- พัฒนาโครงสร้างองค์กรให้สนับสนุนการสื่อสารที่รวดเร็ว อันเป็นสิ่งพื้นฐานที่จะเพิ่มความคล่องตัวขององค์กร ความรวดเร็วในการตัดสินใจ และการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด

- ภาวะผู้นำแบบสั่งการ (Directive Style) เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ทุกคนได้รับการคาดหวังให้สามารถเป็นผู้นำแม้จะไม่มีตำแหน่งที่มีอำนาจอย่างเป็นทางการ และผู้นำต้องเรียนรู้ที่จะมอบหมายอำนาจและการตัดสินใจให้กับผู้ปฎิบัติงาน ซึ่งสิ่งนี้จะสร้างแรงจูงใจและความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร

- สร้างงานที่มีความหมายต่อตัวบุคคลให้กับพนักงาน การมีกลยุทธ์ในด้านนวัตกรรมไม่อาจรับรองถึงความสำเร็จได้ และบริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำหน้าที่สุดก็สนใจในความทุ่มเทเพื่อองค์กร ดังนั้นกลยุทธ์ต้องถูกวิเคราะห์ทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้างเพื่อการออกแบบงานที่พนักงานสามารถเห็นถึงความเชื่อมโยงของตนกับวัตถุประสงค์ขององค์กรและเป้าหมายของหน่วยงานได้

“ความท้าทายของผู้นำ คือการนำรูปแบบภาวะผู้นำที่มีหลากหลาย เช่น ผู้นำแบบฝึกสอน ผู้นำแบบใช้ตนเองเป็นมาตรฐาน ผู้นำแบบสั่งการ ผู้นำแบบบเน้นการมีส่วนร่วม มาประยุกต์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และกลุ่มพนักงาน .. รูปแบบภาวะผู้นำมีอิทธิพลมากต่อบรรยากาศขององค์กร ซึ่งมีผลต่อความรับรู้หรือความรู้สึกของบุคคล ซึ่งมีผลต่อกับผลการปฏิบัติงาน” ปุณยชากล่าวเพิ่มเติม

ภาวะผู้นำนวัตกรรมนำธุรกิจ

ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่มั่นคง การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วและไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้ นวัตกรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่องค์กรไม่สามารถละเลยได้ และเพื่อที่จะผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรมไปสู่ความสำเร็จ ผู้นำจำเป็นต้องมีความชำนาญในการประยุกต์ทั้งในความคิดในเชิงกลยุทธ์และการมองภาพรวม มีความซื่อสัตย์และเปิดรับข้อมูลและเหตุผล หาวิธีใหม่ๆเพื่อสร้างความผูกพันของพนักงาน และอาจต้องยอมลดบทบาทตนเองเพื่อประสานให้เกิดความร่วมมือในองค์กร

การเป็นผู้นำในสภาพแวดล้อมใหม่นี้จะเป็นการทดสอบความสามารถของผู้บริหารในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเป็นผู้นำ ผู้นำแบบใช้อำนาจสั่งการซึ่งมักพบมากในเหล่าผู้นำชาวเอเชียอยู่แล้วนั้นยังมีความจำเป็นต่อการสร้างความเข้าใจและการยอมรับในแนวคิดต่างๆ อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นและผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมในระยะยาว จำเป็นต้องมีมากกว่าอำนาจในการสั่งการ ภาวะผู้นำแบบเน้นความร่วมมือร่วมใจเป็นสิ่งที่จำเป็น และถือเป็นความท้าทายที่ผู้นำชาวเอเชียจำเป็นต้องเรียนรู้และประยุกต์ใช้ภาวะผู้นำแบบต่างๆ

นอกจากนั้น ทักษะการจูงใจ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารผลผลิตในยุคคลาวด์ (Cloud) ซึ่งผู้นำจะต้องแบกรับภาระโดยการทำงานแบบหลากหลายหน้างาน และการบริหารแบบข้ามทีมในหลากหลายสถานที่ ซึ่งทีมงานบางคนอาจไม่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรง

สุดท้ายแล้ว ผู้นำจำเป็นต้องใช้วุฒิภาวะทางอารมณ์ให้เป็นประโยชน์และนำทีมปรับตัวเข้าสู่สภาพปกติให้ได้หลังพบกับผลตอบรับในเชิงลบและความล้มเหลว ทั้งการฟื้นฟูในทางจิตใจและอารมณ์

การสร้างกรอบแนวทางเพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เป็นขั้นตอนสำคัญมากกว่าตัวนวัตกรรมเอง และการสร้างภาวะผู้นำแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมอาจเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดสำหรับความยั่งยืนขององค์กร

เฮย์กรุ๊ปเอเชียได้ศึกษาค้นคว้าด้านความสามารถเชิงภาวะผู้นำตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งองค์กรต่างๆ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาและกระตุ้นคนเก่งเพื่อตอบสนองกับความต้องการทางธุรกิจที่เติบโตขึ้น นอกจากนี้แล้วยังมีสิ่งใดที่ควรทำเพิ่มเติมอีก?

ท่านสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเผยทิศทางและ Best practice ด้านภาวะผู้นำที่เหมาะที่สุดที่องค์กรที่ประสบความสำเร็จใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยเข้าร่วมการสำรวจบริษัทสุดยอดด้านผู้นำ ประจำปี 2556 ของบริษัท เฮย์กรุ๊ป โดยท่านสามารถร่วมทำแบบสำรวจกับเราได้ที่ http://www.haygroup.com/Surveys/best_companies_2013/

เกี่ยวกับบริษัท เฮย์กรุ๊ป

บริษัท เฮย์กรุ๊ป เป็นบริษัทด้านการให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการองค์กรระดับโลก ที่ดำเนินงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของแต่ละองค์กรในการร่วมกันทำให้กลยุทธ์เป็นความจริง บริษัทมุ่งพัฒนาความสามารถในการบริหารจัดการองค์กร โดยใช้ทรัพยากรมนุษย์ ที่แต่ละองค์กรมีอยู่ เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งกระตุ้นบุคลากรขององค์กรแสดงศักยภาพที่มีอยู่เพื่อการปฏิบัติงานให้แก่องค์กร ปัจจุบันบริษัทมีที่ปรึกษาและทีมงานที่มีความสามารถทั้งสิ้น 7,000 คน โดยปฏิบัติงานอยู่ใน 85 ออฟฟิศ จากทั้ง 49 ประเทศทั่วโลก บริษัทมีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาแก่ทั้งภาครัฐและเอกชน ในทุกๆ กลุ่มธุรกิจ ภายใต้จุดมุ่งหมายที่ว่าสร้างการเปลี่ยนแปลงและช่วยให้องค์กรต่างๆ ตระหนักถึงศักยภาพของตน

สามารถสอบถามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาดบริษัทเฮย์กรุ๊ป

Email : [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๑๒:๑๒ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๑๒:๔๗ ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้