บีโอไอหนุนลงทุนจังหวัดชายแดนใต้ เปิดทางได้สิทธิประโยชน์สูงสุด - ผ่อนผันใช้แรงงานต่างด้าว

พฤหัส ๒๐ มิถุนายน ๒๐๑๓ ๑๗:๐๔
บีโอไอ ออกประกาศใช้มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ใหม่ หลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วได้ข้อสรุปร่วมกันเปิดไฟเขียวผู้ประกอบการที่สนใจยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนโดยอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าว พร้อมลดวงเงินลงทุนขั้นต่ำเหลือ 500,000 บาท และสนับสนุนลงทุน คลัสเตอร์อุตสาหกรรม หวังกระตุ้นผู้ประกอบการลงทุนใหม่-ขยายกิจการในพื้นที่ชายแดนใต้

นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้รายงานความคืบหน้าการปรับปรุงนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากได้เสนอมาตรการดังกล่าวต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานได้พิจารณาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดบีโอไอได้หารือร่วมกับหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน รวมถึงภาคเอกชนทั้งด้านอุตสาหกรรม การค้าและการเงิน เพื่อให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการ และกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม พบว่าทุกฝ่ายเห็นชอบให้ประกาศนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษที่ได้รับสิทธิและประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนสูงสุดตามข้อเสนอของบีโอไอ

ทั้งนี้ ได้กำหนดขอบเขตของพื้นที่ตามมาตรการดังกล่าว ให้ครอบคลุมจังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล รวมถึง 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา คือ จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน จะได้รับการผ่อนปรนเงื่อนไขเป็นพิเศษในกรณีต่างๆ ได้แก่ ลดมูลค่าเงินลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนจากเกณฑ์ปกติที่ต้องลงทุนขั้นต่ำ 1 ล้านบาท เหลือลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท การอนุญาตให้นำเครื่องจักรใช้แล้วในประเทศมาใช้ในโครงการที่ขอรับการส่งเสริมได้มีมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยจะต้องลงทุนในเครื่องจักรใหม่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของมูลค่าเครื่องจักรใช้แล้ว ซึ่งหลักเกณฑ์ปกติจะไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องจักรใช้แล้วในประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด โดยสามารถนำโครงการเก่ามาขอรับการส่งเสริมโดยลงทุนเพิ่มบางส่วน

สำหรับกิจการที่สามารถรวมกลุ่มลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็จะได้รับสิทธิและประโยชน์ด้านภาษีอากรเป็นพิเศษเช่นเดียวกับการตั้งในนิคมหรือเขตอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาพื้นที่รองรับการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ เพิ่มเติมจากรูปแบบนิคมและเขตอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังได้รับอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือในโครงการที่ได้รับส่งเสริม เช่นเดียวกับกิจการในนิคมหรือเขตอุตสาหกรรม หรือพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่คณะกรรมการกำหนด โดยบีโอไอจะพิจารณาอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือในโครงการที่ได้รับส่งเสริมเป็นราย ๆ ไป แตกต่างจากหลักเกณฑ์ปกติที่อนุญาตให้โครงการลงทุนที่ได้รับส่งเสริมใช้แรงงานต่างชาติเฉพาะที่เป็นช่างฝีมือหรือผู้ชำนาญการเท่านั้น “แนวทางการพัฒนาและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ จำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งภายหลังการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว บีโอไอได้ออกประกาศใช้มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้ปรับปรุงใหม่แล้ว โดยจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจในมาตรการดูแลพัฒนาอุตสาหกรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริง รวมถึงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการตัดสินใจเข้าไปลงทุนในพื้นที่เพิ่มขึ้นในอนาคต” นายประเสริฐ กล่าว

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า มาตรการข้างต้น เป็นมาตรการเพิ่มเติมจากเดิมที่บีโอไอส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมาตรการเดิมที่จะใช้ควบคู่กับมาตรการใหม่ ประกอบด้วย 3 มาตรการ คือ มาตรการทั่วไปสำหรับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่จำกัดเวลายื่นคำขอรับการส่งเสริม จะเปิดกว้างให้กิจการทุกประเภทในบัญชีที่เปิดให้การส่งเสริมได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปี โดยไม่จำกัดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมถึงได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 ของอัตราปกติ 5 ปี นับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

ส่วนอีก 2 มาตรการ คือ มาตรการพิเศษสำหรับชายแดนภาคใต้ ซึ่งผู้ประกอบการรายเดิมไม่ว่าจะลงทุนในพื้นที่ใดของประเทศ หากยื่นขอรับส่งเสริมใหม่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กำหนดตามประกาศ จะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งโครงการเดิมและโครงการใหม่ โดยโครงการเดิมจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 3 ปี ส่วนโครงการใหม่จะได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด และมาตรการส่งเสริมการลงทุนนิคมหรือเขตอุตสาหกรรม และกิจการที่ตั้งในนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กำหนดจะเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจและยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเข้ามาภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557

จากสถิติของบีโอไอ พบว่า ตั้งแต่ปี 2547 จนถึง 2555 มีการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 19 โครงการ เงินลงทุนรวม 2,861 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกิจการผลิตอาหารแปรรูป และผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๓ เซ็นทารา เปิดตัว โคซี่ เวียงจันทน์ น้ำพุ โรงแรมไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ ใจกลางเมือง พร้อมอิสระแห่งการเดินทาง
๑๐:๐๙ THE GAIN ยกขบวนวิทยากรระดับประเทศ มุ่งสู่งานสัมมนา การเทรดและลงทุนปี 2024
๑๐:๒๗ W เผย IFA หนุนเพิ่มทุน 2.5 พันล้านหุ้นขาย PP รับแผนเข้าถือหุ้นฟรุตต้าฯ 51% พร้อมปลดล็อก CBC
๑๐:๓๐ ผถห.TFG โหวตหนุนแจก TFG-W4 ฟรี! อัตรา 10 : 1 ราคาใช้สิทธิ 3.80 บ.พร้อมจ่ายปันผลเงินสด 0.01 บ./หุ้น ปักธงปี 67 รายได้โต 10%
๑๐:๑๙ ASIA เตรียมขายหุ้นกู้มีหลักประกัน มูลค่า 300 ลบ. อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 7 - 7.20% มูลค่าหลักประกันเฉียด 1,600 ลบ. คาดเปิดจองซื้อวันที่ 27 - 29 พ.ค.
๑๐:๓๘ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ประกาศรวมอัตลักษณ์องค์กรในระดับโลก ด้วยการรีแบรนด์ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป เป็น ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยุโรป แอนด์
๑๐:๕๔ ยูนิโคล่ร่วมกับมารีเมกโกะ เปิดตัว UNIQLO x Marimekko คอลเลคชันลิมิเต็ดเอดิชันประจำฤดูร้อน 2024 เติมเต็มความสดใสให้ซัมเมอร์ ในธีม Joyful Summer
๑๐:๔๒ TERA ฟอร์มเจ๋ง! เปิดเทรดวันแรกเหนือจอง 122.86% ลุยให้บริการ T.Cloud รับอนาคตธุรกิจคึกคัก ปักหมุดผลงาน 3 ปีเติบโตเฉลี่ยเกิน
๑๐:๐๙ โบรกฯ แสกน GFC ส่งซิก Q1/67 พุ่ง
๑๐:๐๐ ผถห. WINMED ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.0295 บ./หุ้น-รับเงิน 21 พ.ค.นี้ รุกตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก เพิ่มรายได้ประจำผถห. ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โตเกิน 20%