โอกาสทองของนักธุรกิจไทย บีโอไอพาไปดูลู่ทางลงทุนใน ย่างกุ้ง — มัณฑะเลย์

จันทร์ ๐๑ กรกฎาคม ๒๐๑๓ ๑๕:๑๖
บีโอไอจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุนไทยในต่างประเทศ นำนักธุรกิจไทยสำรวจลู่ทางการลงทุนในนครย่างกุ้ง และเมืองมัณฑะเลย์ สหภาพเมียนมาร์ เล็งขยายฐานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และสำรวจนิคมอุตสาหกรรมมิงกาลาดอน พร้อมหารือสมาชิกหอการค้ามัณฑะเลย์เพื่อสร้างเครือข่าย และความร่วมมือด้านการลงทุนไทยในเมียนมาร์

นายเจษฎา ศรศึก ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 15 — 19 กรกฎาคม 2556 บีโอไอ โดยสำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน จะจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุนและเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศ ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์

กิจกรรมสำคัญคือ การเยือนนิคมอุตสาหกรรมมิงกาลาดอน ในนครย่างกุ้ง เพื่อสำรวจสภาพและความพร้อมของนิคมอุตสาหกรรมมิงกาลาดอนที่มีแผนพัฒนาขยายนิคมอุตสาหกรรมเฟสที่ 2 ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้สนับสนุนอุตสาหกรรมสิ่งทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์พลาสติก และเครื่องหนัง พร้อมเยี่ยมชมกิจการของคนไทย 2 รายใหญ่ในสหภาพเมียนมาร์ ได้แก่ ซี.พี. และมาม่า หลังจากนั้นจะเดินทางไปเมืองมัณฑะเลย์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับโอกาสการค้าการลงทุนกับสมาชิกหอการค้ามัณฑะเลย์ และสำรวจตลาดขายส่ง — ขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ รวมทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำของเมียนมาร์

“ ที่ผ่านมาบีโอไอได้จัดคณะผู้ประกอบการไปเยือนพม่าหลายครั้ง เพื่อดูลู่ทางลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตร สิ่งทอ อาหาร และชิ้นส่วนยานยนต์ แต่กิจกรรมครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะสินค้าไทยเป็นที่ชื่นชอบของคนพม่ามาก ตั้งแต่มัณฑะเลย์ลงมาถึงย่างกุ้งจะเป็นสินค้าไทย หากเป็นพื้นที่ตอนบนจะเป็นสินค้าจากจีนที่ได้รับความนิยม และในอนาคตการลงทุนจากไทยที่เข้าไปในพม่าจะเริ่มเป็นการผลิตเพื่อส่งออก เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอที่ต้องใช้แรงงานมาก ” นายเจษฎากล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์พัฒนานักลงทุนไทยไปต่างประเทศ หรือ TOISC ของบีโอไอ ระบุว่า พม่าได้ถูกกำหนดเป็นประเทศเป้าหมายสำคัญ 1 ใน 4 แห่ง นอกจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และแอฟริกา ที่จะสนับสนุนให้นักลงทุนไทยออกไปลงทุน เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีแรงงาน มีตลาด ทั้งยังมีชายแดนติดต่อกับไทยยาวกว่า 1,800 กิโลเมตร ซึ่งหากมองในเชิงเศรษฐศาสตร์ถือว่า พม่ามีปัจจัยการผลิตพร้อม มีศักยภาพในการพัฒนาสูง แม้รายได้ต่อหัวประชากรยังต่ำ แต่ถ้าเปิดประเทศเต็มตัวแล้วการเติบโตจะรวดเร็วมาก ที่สำคัญอำนาจการซื้อก็จะเพิ่มขึ้น

สำหรับสถิติของผู้ประกอบการไทยที่ไปลงทุนในพม่า ตั้งแต่ปี 2550 -2555 พบว่า ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนเป็นอันดับ 1 มูลค่าการลงทุน 5,970 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 2 ประเทศสิงคโปร์ มูลค่าการลงทุน 3,708 ล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับ 3 ประเทศฮ่องกง มูลค่าการลงทุน 2,639 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่เข้าไปลงทุนส่วนใหญ่คือ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ การขุดเจาะปิโตรเลียม ประมง อาหารทะเล และค้าส่ง ค้าปลีก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๓๖ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัล Digital Transformation Initiative of the Year 2024 จากเวที Healthcare Asia Awards
๑๒:๐๐ กลับมาอีกครั้งกับงานช้อปอย่างมีสไตล์ รายได้เพื่อชุมชน ครั้งที่ 14 เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ชวนมาช้อป ชม ของดี ของเด็ดประจำจังหวัดปทุมธานี ระหว่าง 4 - 10
๑๒:๓๙ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมพลศึกษา จัดแข่งขันกีฬากระบี่กระบองระหว่างโรงเรียน กิจกรรมสร้างสรรค์เสริมทักษะเยาวชน ส่งเสริม SOFT POWER
๑๑:๑๕ TOA ย้ำแชมป์สีเบอร์หนึ่ง คว้า 2 รางวัลใหญ่ 'สุดยอดองค์กร และแบรนด์สีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นมากที่สุด' 13 ปีซ้อน Thailand's Most Admired Company Brand ปี
๑๑:๔๒ ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์
๑๑:๕๘ ศิษย์เก่าวิศวฯ SPU กว่า 5 ทศวรรษ ร่วมย้อนวันวานในงาน วิศวฯ คืนถิ่น SEAN HOMECOMING 2024
๑๑:๑๓ เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่น ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2567
๑๑:๔๕ YouTrip สาดความคุ้มต้อนรับสงกรานต์กับ 2 โปรพิเศษ 4.4 Travel Sale และ Japan Mega Cashback รับส่วนลดสุดคุ้มจากแบรนด์ท่องเที่ยวดัง และเงินคืนสูงสุด 2,000
๑๑:๕๒ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รามคำแหง เชิญเข้าร่วมงานสัมมนาวิชา อนาคตเศรษฐกิจไทย: ยืดหยุ่นและยั่งยืน
๑๑:๑๐ เจแอลแอล ประเทศไทย เผยเทรนด์ ESG ของปี 2567 และเป้าหมายสู่อุตสาหกรรมสีเขียวของวงการอสังหาฯ