ตลาดคอนโดมิเนียมในบางแสน ณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2556

ศุกร์ ๐๕ กรกฎาคม ๒๐๑๓ ๐๘:๔๒
บางแสนอยู่ห่างจากรุงเทพมหานครเพียงแค่ใช้ระยะเวลาขับรถประมาณ 90 นาทีเท่านั้น แต่ในปัจจุบันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทย และชาวต่างชาติเหมือนในอดีต หรือเหมือนกับเมืองชายทะเลอื่นๆ แต่เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตบางแสน ซึ่งทั้งนักเรียน อาจารย์ ตลอดจนพนักงานของมหาวิทยาลัย คือปัจจัยหลักที่ช่วยพื้นที่นี้มีการขยายตัว โดยเฉพาะพื้นที่รอบๆ มหาวิทยาลัย

อุปทานของคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จและจดทะเบียนที่กรมที่ดินแล้ว ณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2556 มีอยู่ประมาณ 4,380 ยูนิต อ้างอิงจากรายงานวิจัยตลาดคอนโดมิเนียมในบางแสนฉบับล่าสุดจากฝ่ายวิจัย ของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ซึ่งในรายงานฉบับนี้คอลลิเออร์ส ได้แบ่งบางแสนออกเป็น 3 พื้นที่ คือ อ่างศิลา บางแสนฝั่งเหนือ (ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัย) และบางแสนฝั่งใต้ (ฝั่งเดียวกับมหาวิทยาลัย)

นายนายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย จากคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมในบางแสนว่า “พื้นที่ที่น่าสนใจคือ บางแสนฝั่งเหนือ และบางแสนฝั่งใต้ ซึ่งมีโครงการคอนโดมิเนียมจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในทั้ง 2 พื้นที่นี้ โครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือเกิดขึ้นในปีพ.ศ.2537 และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปีพ.ศ.2555”

“นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบูรพา คือปัจจัยหลักที่ช่วยเร่งให้มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือ และใต้ นักเรียนบางส่วนมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตจากพักอาศัยในอพาร์ทเม้นท์ มาเป็นคอนโดมิเนียม และขายยูนิตของตนเองหลังจากเรียนจบ” นายสุรเชษฐ กล่าว

“ผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในบางแสนทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์บางรายเองก็มีแผนที่จะเปิดขายโครงการในพื้นที่นี้เช่นกัน นอกจากนี้ราคาขายเฉลี่ยในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2556 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ประมาณ 7% และมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต” นายสุรเชษฐ กล่าวเพิ่มเติม

คอนโดมิเนียมหลายโครงการเปิดขายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงมีคอนโดมิเนียมจำนวนมากที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วง 1 — 2 ปี นับจากนี้ ซึ่งนายนายสุรเชษฐ กองชีพ ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงคอนโดมิเนียมที่กำลังก่อสร้างว่า “มีคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และมีกำหนดแล้วเสร็จในปีนี้ในพื้นที่อ่างศิลาเพียงแค่ประมาณ 240 ยูนิตเท่านั้น เนื่องจากจำนวนที่ดินที่มีอยู่จำกัด ในขณะที่มีอีกประมาณ 600 ยูนิต และ 440 ยูนิตที่กำหนดแล้วเสร็จในปีพ.ศ.2556 ในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือ และใต้ ตามลำดับ พื้นที่บางแสนฝั่งเหนือ และใต้ ได้กลายเป็นทำเลยอดนิยมในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากยังมีที่ดินที่มีศักยภาพ และราคาไม่สูงเกินไปอีกหลายแปลงอยู่ในพื้นที่ และความต้องการคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน”

กลุ่มผู้ซื้อในบางแสน คือ นักศึกษา และคนที่ทำงานในมหาวิทยาลัยบูรพา รวมทั้งคนที่เดินทางมาทำงานในพื้นที่นี้ หรือในพื้นที่อำเภอเมืองชลบุรี นอกจากนั้น มีผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยที่ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่าให้กับนักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตบางแสน เป็นปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่บางแสน และอ่างศิลา โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม

“อัตราการขายได้เฉลี่ยในบางแสน และอ่างศิลา อยู่ที่ประมาณ 72% อัตราขายได้เฉลี่ยในพื้นที่อ่างศิลาต่ำที่สุดที่ประมาณ 64% และประมาณ 87% ของยูนิตในพื้นที่นี้เปิดขายในช่วงปีพ.ศ.2555 — เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2556 คอนโดมิเนียมมากว่า 2,670 ยูนิตเปิดขายในปีพ.ศ.2555 ในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือ ความต้องการที่มีมากขึ้น รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ เป็นปัจจัยที่ช่วงส่งเสริมให้อัตราการขายได้ในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือสูงขึ้น อัตราการขายได้เฉลี่ยในบางแสนฝั่งเหนือ และฝั่งใต้ อยู่ที่ประมาณ 74% และ 72% ตามลำดับ ” นายสุรเชษฐ กล่าว

“แม้ว่าค่าเช่าของคอนโดมิเนียมจะสูงกว่าอพาร์ทเม้นท์ แต่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยบูรพาบางส่วนยังเลือกที่จะพักอาศัยในคอนโดมิเนียม เนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ที่จอดรถ และระบบรักษาความปลอดภัย และนี่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนที่ต้องการลงทุนโดยซื้อคอนโดมิเนียมที่อยู่รอบๆ มหาวิทยาลัยเพื่อปล่อยเช่า นักศึกษาของมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตบางแสน มีมากกว่า 30,000 คน และประมาณ 6,000 คนเป็นนักศึกษาใหม่ในปีพ.ศ.2556 ซึ่งจำนวนนักศึกษาที่มีมากขนาดนี้ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรมในพื้นที่ คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ที่เปิดขายในช่วง 2 — 3 ปีที่ผ่านมาพุ่งเป้าไปที่นักศึกษาที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมไว้พักอาศัยระหว่างเรียนที่นี่ หลังจากนั้นจึงขาย หรือปล่อยเช่าออกไปเมื่อเรียนจบ” เขากล่าวเพิ่มเติม

ราคาขายเฉลี่ยในพื้นที่บางแสนอยู่ในช่วงประมาณ 750,000 บาท ถึงมากกว่า 8 ล้านบาทต่อยูนิต หรือประมาณ 29,000 บาทต่อตารางเมตร ถึงประมาณ 115,000 บาทต่อตารางเมตร โดยที่ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมทั้งหมดในตลาดอยู่ที่ประมาณ 45,600 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นประมาณ 7% จากปีพ.ศ.2555

“ราคาขายเฉลี่ยในพื้นที่บางแสนฝั่งใต้สูงกว่าพื้นที่อื่นประมาณ 12 — 40% เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับกลุ่มเป้าหมายคือนักศึกษา และพนักงานของมหาวิทยาลัยมากกว่าพื้นที่อื่น นอกจากนี้ราคาที่ดินในบริเวณนี้ก็สูงกว่า ซึ่งกระทบโดยตรงต่อราคาขายของคอนโดมิเนียม ราคาขายของคอนโดมิเนียมในพื้นที่บางแสนฝั่งเหนือในปีพ.ศ.2556 เพิ่มขึ้นจากปีพ.ศ.2555 มากกว่า 15% เพราะว่าโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการที่เปิดขายในช่วง 1 — 2 ปีที่ผ่านมาใกล้จะแล้วเสร็จ” นายสุรเชษฐ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้