แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่า ถึงแม้จะมีความตื่นตัว คาดหวัง หรือมีการออกกฎระเบียบและสร้างกลไกขึ้นมาเพื่อให้เกิดธรรมาภิบาลในภาคส่วนต่างๆ แต่สภาพความเป็นจริงของสังคมและการบริหารงานทั้งภาครัฐและเอกชนก็ยังคงมีปัญหาในเรื่องการขาดธรรมาภิบาลและความโปร่งใส ซึ่งเป็นตัวบั่นทอนศักยภาพของการพัฒนาประเทศเป็นอย่างยิ่ง ก.ธ.จ. จึงเป็นองค์กรหนึ่งที่กฎหมายกำหนดให้มาทำหน้าที่ในการเสริมสร้างธรรมาภิบาล สอดส่องและให้ข้อเสนอแนะแก่หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ให้ใช้หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
สิ่งที่บ้านเมืองต้องการในขณะนี้ คือ เรื่องความเชื่อมั่นต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งในมิติของประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการดำเนินงาน ความคุ้มค่าต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ หรือความสอดคล้องต่อความต้องการของประชาชน รวมทั้งในเรื่องความเสมอภาค ความเป็นธรรมและความโปร่งใสซึ่งจะเห็นว่า ก.ธ.จ. เป็นองค์กรในรูปคณะกรรมการฯ ที่มีอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และเป็นองค์กรสำคัญที่กฎหมายกำหนดให้มีขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการสอดส่องดูแลการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ในจังหวัด ซึ่งจะทำให้ปัญหาต่างๆ ที่เป็นข้อสงสัย หรือเกิดความไม่แน่ใจได้รับการป้องกัน หรือแก้ไขให้ถูกต้อง ดังนั้น ความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในแต่ละจังหวัดจึงมีความสำคัญ
ซึ่งหากผู้ใดพบเห็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ขาดประสิทธิภาพ ไม่โปร่งใส หากแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไขก็สามารถแจ้งให้ ก.ธ.จ. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อช่วยเหลือบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าวได้ สำหรับรายชื่อ ก.ธ.จ. ในแต่ละจังหวัดและเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้นั้น สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.opm.go.th และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะได้จัดทำเป็นแผ่นพับ ใบปลิวเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปในแต่ละจังหวัดได้รับทราบต่อไป