นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสธุรกิจเครื่องปรับอากาศ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่มธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ซัมซุงพร้อมนำเสนอระบบปรับอากาศรุ่นใหม่ล่าสุด “ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส” ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมสุดสมาร์ทสำหรับหลากหลายรูปแบบอาคารเจาะกลุ่มองค์กร เอื้อประโยชน์ต่อ ทุกกลุ่มธุรกิจอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งการที่ซัมซุงหันมารุกตลาดระบบปรับอากาศอย่างเต็มตัวนั้นเนื่องจาก ซัมซุงมองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจนี้ ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเติบโตสูง รวมถึงปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังเติบโต กลุ่มธุรกิจต่างๆ มีการก่อสร้างอาคารอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความต้องการระบบปรับอากาศที่มีศักยภาพสูง ประหยัดพลังงาน สามารถปรับเข้ากับการออกแบบอาคารได้ง่าย และคุ้มค่าแก่การลงทุน ซัมซุงจึงเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการบุกตลาดในปีนี้”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อรรจน์ เศรษฐบุตร อุปนายกสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงแนวโน้มการเติบโตของอาคารในประเทศไทยว่า “เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา อาคารประเภทห้างสรรพสินค้า หรือ คอมมูนิตี้ มอลล์ เกิดขึ้นมากมายในทุกจังหวัด หลังจากนั้นจะเป็นตลาดคอนโดมิเนียมที่กลับมาคึกคัก สำหรับในปัจจุบันมีการหมุนเวียนของประชากรข้ามประเทศมากขึ้น จึงทำให้อาคารประเภทโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์เริ่มมีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้เซ็กเมนท์ที่การเติบโตเริ่มชัดขึ้น คือ โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยนานาชาติ ซึ่งการลงทุนติดตั้งระบบปรับอากาศในอาคารถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคน ตลอดจนเพิ่มผลผลิต อาคารใดหรือบริษัทใดใช้เครื่องปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพกว่า ประหยัดพลังงานมากกว่า ลดต้นทุนการผลิต จะได้เปรียบทางการแข่งขัน ดังนั้นในการออกแบบระบบปรับอากาศในอาคารจึงต้องคำนึงถึงขนาดตัวเครื่องที่ไม่กินเนื้อที่ มีการยืดหยุ่นต่อการใช้สอย การควบคุมง่าย ลดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษา และที่สำคัญที่สุดคือการประหยัดพลังงาน”
ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส เป็นระบบปรับอากาศสำหรับอาคารที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถออกแบบการใช้งานที่ปรับได้ตามความต้องการของแต่ละอาคารในลักษณะคัสตอมไมซ์ โดยเน้นผ่านแนวคิด 3 สมาร์ท ประกอบด้วย สมาร์ทเซฟวิ่ง (Smart Saving) สมาร์ทดีไซน์ (Smart Design) และสมาร์ทคอนโทรล (Smart Control) ซึ่งสมาร์ทเซฟวิ่งนั้น ซัมซุงได้คิดค้นเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าจากระบบอื่นๆ มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นระบบปรับอากาศที่ประหยัดพลังงานที่สุดในขณะนี้ นอกจากจะประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายแล้ว ยังประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งรวมถึงเวลาในการติดตั้งด้วย สำหรับสมาร์ทดีไซน์ ซัมซุงได้พัฒนาโปรแกรมการออกแบบเพื่อผสานซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส เข้ากับตัวอาคารไว้อย่างลงตัว ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดในการออกแบบ เปิดกว้างให้สถาปนิกสามารถสร้างสรรค์งานได้อย่างเต็มที่ ส่วนสมาร์ทคอนโทรลนั้น ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส มาพร้อมกับระบบควบคุมการทำงานอัจฉริยะที่สามารถตรวจสอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือพีซี ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสถานะการทำงาน ความผิดปกติหรือควบคุมอุณหภูมิในจุดต่างๆ ตามต้องการได้ ซึ่งสามารถควบคุมจากที่ไหนก็ได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย รวมทั้งประหยัดเวลาอีกด้วย อีกทั้ง ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส ยังเป็นนวัตกรรมขั้นสูงสุดที่สามารถควบคุมการปล่อยกระจายและปรับอากาศในอาคารประเภทต่างๆ โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ของระบบ SSC (Samsung Scroll Compressor) ที่นำมาใช้ร่วมกับระบบดูอัล สมาร์ท อินเวอร์เตอร์ (Dual Smart Inverter) และระบบเวเปอร์อินเจ็คชัน (Vapor Injection) ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นและลดอัตราการใช้พลังงาน ช่วยควบคุมความเย็นตามจุดต่างๆ ให้คงที่ตามที่ต้องการได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง สมบูรณ์แบบที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้ ตอบโจทย์ความต้องการอาคารสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
“สำหรับในปีนี้นั้นซัมซุงพร้อมอย่างเต็มที่ในการบุกตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับอาคาร ด้วย Team & Tool หรือทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มองค์กร ซัมซุงมีทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ทั้งทีมออกแบบ วิศวกร ทีมการตลาดและทีมขาย รวมถึงทีมเซอร์วิส ที่เตรียมไว้สำหรับการให้บริการลูกค้า สำหรับกลยุทธ์การตลาดนั้น ซัมซุงมุ่งสร้างการรับรู้รวมถึงการให้ความรู้กับกลุ่มเจ้าของอาคารและกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) ถึงข้อดีของระบบปรับอากาศ ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อองค์กรทั้งเรื่องการออกแบบอาคาร การประหยัดพลังงาน ตลอดจนการควบคุมต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ซัมซุงยังมีการตั้งเทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ในการฝึกอบรมทีมงานเพื่อให้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการให้บริการลูกค้า ทั้งยังจัดเตรียมโปรแกรมสัมมนาและโปรแกรมเทรนนิ่งอีกมากมายเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจสำหรับกลุ่มธุรกิจ ส่วนด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ซัมซุงแบ่งเป็น 2 ทาง ได้แก่ ผ่านทีมขายของซัมซุง และดีลเลอร์ ทั่วประเทศ” นายสมพรกล่าวเสริม
“ซัมซุงมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยความพร้อมในทุกด้าน ทั้งนวัตกรรมที่ล้ำหน้าของผลิตภัณฑ์ ความพร้อมของทีมงาน ตลอดจนกลยุทธ์ต่างๆ ที่ซัมซุงเตรียมไว้ในปีนี้ จะทำให้ซัมซุงประสบความสำเร็จในการบุกตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับอาคารอย่างแน่นอน การันตีความสำเร็จที่ผ่านมาได้ด้วยโครงการมากกว่า 100 โครงการที่เป็นลูกค้าของซัมซุง โดยแบ่งเป็นหลากหลายกลุ่มธุรกิจ อาทิ อาคารสำนักงาน หน่วยงานราชการ โรงพยาบาล โรงแรม สถาบันการศึกษา และสถาบันการเงินซึ่งเป็นที่รู้จัก นอกจากนี้ยังมีโครงการในต่างประเทศที่เลือกใช้ระบบปรับอากาศซัมซุง ได้แก่ สระว่ายน้ำสำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2013 ที่ประเทศพม่า และสนามกอล์ฟในประเทศกัมพูชา ซึ่งตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมีให้แก่ซัมซุงได้เป็นอย่างดี” นายสมพรกล่าวทิ้งท้าย