มหาวิทยาลัยวิกตอเรีย แห่งเวลลิงตันเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของนิวซีแลนด์ มีความโดดเด่นในแง่ความเป็นเลิศด้านการเรียนการสอนโดยใช้การวิจัยเป็นฐาน (research-based teaching) รวมถึงสถานที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศและเป็นสถานศึกษาที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในหมู่นักศึกษานานาชาติจากกว่า 90 ประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นสถานศึกษาที่มีความเป็นนานาชาติมากที่สุดในนิวซีแลนด์ด้วยจำนวนบุคลากรกว่าครึ่งมาจากต่างประเทศ ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยวิกตอเรีย แห่งเวลลิงตัน ยังเป็นจุดหมายเพื่อการศึกษายอดนิยมของนักศึกษาไทยมานานกว่า 40 ปีแล้ว เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างประเทศนิวซีแลนด์และประเทศไทย ทางมหาวิทยาลัยฯ จึงได้จัดสรรทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี ประเภททุนค่าเล่าเรียนปีแรก แก่นักศึกษาไทยที่สนใจโดยจะพิจารณาคัดเลือกจากผลการเรียน รวมถึงการทำกิจกรรมนอกหลักสูตรในโรงเรียนและการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน
Victoria University of Wellington มีหลักสูตรการศึกษาให้เลือกหลากหลายและครบครันตามความสนใจที่แตกต่างของผู้เรียน ซึ่งทั้งหมดล้วนมีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น คณะนิติศาสตร์ ล่าสุดได้รับการจัดอันดับโดย QS World University Rankings ให้เป็นแหล่งศึกษาด้านกฎหมายที่ดีที่สุดในนิวซีแลนด์ และติดอันดับที่ 23* ของโลกนอกจากนี้ยังติด 1 ใน 58 สถานศึกษาด้านบริหารธุรกิจชั้นนำ จากราว 13,000 แห่งทั่วโลก ทั้งในส่วนของหลักสูตร AMBA, AACSB (Business) และผ่านการรับรองมาตรฐาน EQUIS (ระดับ ‘Triple Crown’) และเป็นหนึ่งในสถาบันที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Triple Crown ในส่วนของหลักสูตร AACSB (Accounting) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.victoria.ac.nz/sacl/about/accreditation
คณะอื่นๆ ที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของมหาวิทยาลัย ได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ MacDiarmid Institute for Nanotechnology and Advanced Materials และMalaghan Institute for Medical Research (Biomedical Science) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลกทั้งในด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์และกราฟิกดีไซน์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีเครือข่าย วิศวกรรมซอฟต์แวร์ และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ส่วนคณะที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากนักศึกษานานาชาติ ได้แก่ บริหารธุรกิจ วิทยาศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ (คณะที่ใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัย)
จุดเด่นอีกด้านหนึ่งของระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์ คือ ความยืดหยุ่นของหลักสูตร ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนสามารถวางแผนการศึกษาของตนให้จบปริญญาตรีได้ใน 3 ปี หรือจบปริญญาตรีและโทใน 5 ปีทุนการศึกษาดังกล่าวนับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มอบโอกาสทางการศึกษาที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับนักศึกษาไทย