นายบุญเลิศ สุขเสรีทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เซเรบอสเล็งเห็นความจำเป็น และความสำคัญของโลหิตในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งมีแนวโน้มการใช้โลหิตเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้นเซเรบอส จึงได้ร่วมมือกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดทำโครงการ “แบรนด์...พลังเพื่อเลือดใหม่ 2556” หรือ BRAND’S Young Blood 2013 ขึ้น เพื่อรณรงค์ให้กลุ่มนิสิตนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ จำนวน 86 แห่ง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานภายในสถานศึกษานั้นๆ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคโลหิตในวาระพิเศษถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชมมพรรษา 86 พรรษา และยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญในการบริจาคโลหิต และสร้างจิตสำนึกของการเป็น “ผู้ให้” อีกทั้งรณรงค์ส่งเสริมให้มีการบริจาคโลหิตทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้มีโลหิตพอเพียงต่อความต้องการของผู้ป่วย โดยตั้งเป้าหมายโลหิตที่ได้รับบริจาคจำนวน 86,000 ยูนิต หรือไม่ต่ำกว่า 34,400,000 ซี.ซี ระหว่างเดือนกันยายน 2556 - พฤษภาคม 2557
นอกจากการรับบริจาคโลหิตแล้ว ทางโครงการ “แบรนด์...พลังเพื่อเลือดใหม่ 2556” ยังได้จัดกิจกรรมการประกวดวีดีโอคลิป ความยาว 1 นาทีเพื่อรณรงค์การบริจาคโลหิต โดยมีเนื้อหาในการเชิญชวน รณรงค์ให้เยาวชนร่วมบริจาคโลหิต และนำเสนอประโยชน์ของการบริจาคโลหิต ชิงโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย และทุนการศึกษา เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนแสดงความสามารถ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มที่ ตลอดจนเรียนรู้การทำงานเป็นทีม อันจะนำมาซึ่งการได้รับการบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอ และเพียงพอสำหรับผู้ป่วยทั่วประเทศ
สำหรับนักศึกษาที่สนใจร่วมกิจกรรมกับ โครงการ “แบรนด์...พลังเลือดใหม่ 2556” ในกิจกรรมการประกวดวีดีโอคลิป สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.brandsworld.co.th หรือ www.facebook.com/BRANDSWorldThailand
นางสาวกฤศธร องค์ติลานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มีภารกิจหลักในการจัดหาโลหิตบริจาคที่ปลอดภัย ให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของผู้ป่วย เพื่อนำไปใช้รักษาพยาบาลผู้ป่วยในสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาปัญหาเรื่องการจัดหาโลหิตที่ไม่เพียงพอ และไม่สม่ำเสมอยังคงเป็นปัญหาหลักและอุปสรรคที่สำคัญ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เข้าใจของผู้บริจาคโลหิตหน้าใหม่ๆ โดยศูนย์ฯ ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้ และรณรงค์เชิญชวนให้ร่วมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มีเป้าหมายในการจัดหาโลหิตในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลจำนวน 600,000 ยูนิตต่อปี และ ในส่วนจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ รวมแล้วต้องจัดหาโลหิตให้ได้ 1,950,000 ยูนิตต่อปี จึงจะเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งปริมาณการใช้โลหิตนั้นมีเพิ่มขึ้น 8-10 เปอร์เซนต์ทุกปี ดังนั้น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงต้องสร้างพันธมิตร และเครือข่ายภาคีร่วมในการกระตุ้นให้มีผู้บริจาคโลหิตเพิ่มขึ้น โดยในครั้งนี้ทางศูนย์ฯ ได้จัดหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ไปรับบริจาคโลหิตและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสงค์บริจาคโลหิตไปยังมหาวิทยาลัยทั่วประเทศจำนวน 86 แห่ง ซึ่งที่ผ่านมาทางศูนย์ฯ ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเซเรบอสมาโดยตลอด ตลอดจนนักศึกษา เยาวชนคนรุ่นใหม่ และประชาชนผู้สนใจร่วมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการร่วมมือ และการแสดงถึงพลังของการเป็น “ผู้ให้” อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากกิจกรรมข้างต้นแล้ว ทางศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ยังได้จัดทำแผ่นพับให้ความรู้เกี่ยวกับการบริจาคโลหิตแก่ผู้บริจาคโลหิต และประชาชนทั่วไป จัดทำโปสเตอร์และป้ายนิลเชิญชวน และทำโรดโชว์ให้ความรู้ เชิญชวนให้กลุ่มเป้าหมายร่วมบริจาคโลหิต และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการบริจาคโลหิตด้วย
การบริจาคโลหิตมีข้อดีต่อสุขภาพและร่างกายของผู้บริจาคโลหิตหลายประการ อาทิ ร่างกายจะได้สร้างเม็ดเลือดใหม่ๆ ซึ่งแข็งแรงและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า ช่วยกระตุ้นการทำงานของไขกระดูก ช่วยให้ไขกระดูกทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โดยเฉพาะในเพศชาย นอกจากนี้ยังถือเป็นการได้ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก 3 เดือน และได้ตรวจสารเคมีในโลหิตอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถบริจาคโลหิตได้ทุกวันที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ โทร.0 2263 9600-99 หรือ www.blooddonationthai.com
**สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์ จำกัด โทร. 02-7183800