อภิปราย ความน่าดึงดูดใจของประเทศไทย เพื่อจุดหมายด้านการลงทุน

อังคาร ๑๗ กันยายน ๒๐๑๓ ๑๒:๕๒
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้มีการจัดงานสัมมนาให้กับนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ ในหัวข้อเรื่อง Thailand’s Attractiveness As An Investment Destination โดยได้เชิญประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ประจำอาเซียนและเอเชียใต้ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) ผู้ช่วยผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IEAT) และ กรรมการผู้จัดการบริษัทไทคอน (TICON) มาเป็นผู้ร่วมอภิปราย โดยมีคุณ สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย เป็นผู้ดำเนินรายการ

ทั้งนี้ จากความเห็นของผู้อภิปรายทั้ง 4 ท่าน ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของ นักลงทุนญี่ปุ่น ผู้ประกอบการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของรัฐ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และ ผู้ประกอบการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของเอกชน ได้ข้อสรุปตรงกันว่า นักลงทุนต่างชาติยังคงมั่นใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะ นักลงทุนญี่ปุ่น ในขณะที่นักลงทุนจีนเป็นกลุ่มใหม่ที่มีการเติบโตสูงน่าจับตา ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ และ นิคมอุตสาหกรรมยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตดีในระยะยาว ส่วน ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ได้แก่ ภาวะอุปทานตึงตัวของนิคมอุตสาหกรรม ปัญหาแรงงาน และ ความล่าในเรื่องขบวนการ EIA และ HIA

สรุปสาระสำคัญจากการสัมมนาคือ สำหรับนักลงทุนญี่ปุ่น โดยอ้างอิงจากผลการสำรวจของหอการค้าญี่ปุ่น (ซึ่งได้จัดทำมาเป็นเวลากว่า 29 ปีแล้ว) พบว่านักลงทุนชาวญี่ปุ่นส่วนมากยังคงมุมมองเชิงบวกต่อประเทศไทย โดยการเคลื่อนไหวของค่าเงินนั้นไม่ได้เป็นปัจจัยใช้พิจารณาในการลงทุน นักลงทุนบางรายมีแผนที่จะทำการลงทุนเพิ่มเติม ผลตอบรับที่เป็นบวกนี้ได้ส่งผ่านมายังการขอรับการส่งเสริมการลงทุนสุทธิ (BOI) ของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นกว่า 18.2% ใน 1H56 จากผลการสำรวจ นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาระบบถนน (62% ของผู้ตอบแบบสำรวจ) การเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน (38%) การพัฒนาระบบรถไฟ (37%) และการศึกษา (33%). ความสามารถของแรงงานนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการนั้นกังวลเสมอมา (36%) ธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์จะยังคงเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดของการลงทุนของชาวญี่ปุ่น แต่ผู้ประกอบการ SME ชาวญี่ปุ่นก็เริ่มเข้ามาทำการลงทุนมากขึ้น ตามคำบอกกล่าวของ TICON และ IEAT

ด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยังคงมีมุมมองเป็นบวก โดยยังคงคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตในปี 2556 สนับสนุนโดย 1) เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว 2) ตลาดคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์โลกที่กำลังฟื้นตัว 3) การขยายตัวของภาคการบริโภคจากการขยายตัวของภาคการผลิต 4) การใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสำหรับการลงทุน และ 5) ความกดดันของอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงต่ำ โดย FTI ได้ทำการจัดกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมออกเป็น 11 กลุ่มด้วยกัน เพื่อให้ง่ายต่อการพัฒนา วางแผน เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันไว้ กลุ่มกระดาษ/ บรรจุภัณฑ์ดูจะมีข้อได้เปรียบ เนื่องจากอุปสงค์ยังคงสูงจากการขยายตัวของภาคการผลิต โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร ซึ่ง TICON ยังพบว่าการขยายตัวของธุรกิจที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างธุรกิจอาหารและเครื่องปรุงอาหารยังคงเพิ่มขึ้นย่างต่อเนื่องในนิคมอุตสาหกรรม

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้มีการจัดงานสัมมนาให้กับนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ ในหัวข้อเรื่อง Thailand’s Attractiveness As An Investment Destination โดยได้เชิญประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ประจำอาเซียนและเอเชียใต้ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) ผู้ช่วยผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IEAT) และ กรรมการผู้จัดการบริษัทไทคอน (TICON) มาเป็นผู้ร่วมอภิปราย โดยมีคุณ สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย เป็นผู้ดำเนินรายการ

ทั้งนี้ จากความเห็นของผู้อภิปรายทั้ง 4 ท่าน ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของ นักลงทุนญี่ปุ่น ผู้ประกอบการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของรัฐ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และ ผู้ประกอบการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของเอกชน ได้ข้อสรุปตรงกันว่า นักลงทุนต่างชาติยังคงมั่นใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะ นักลงทุนญี่ปุ่น ในขณะที่นักลงทุนจีนเป็นกลุ่มใหม่ที่มีการเติบโตสูงน่าจับตา ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ และ นิคมอุตสาหกรรมยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตดีในระยะยาว ส่วน ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ได้แก่ ภาวะอุปทานตึงตัวของนิคมอุตสาหกรรม ปัญหาแรงงาน และ ความล่าในเรื่องขบวนการ EIA และ HIA

สรุปสาระสำคัญจากการสัมมนาคือ สำหรับนักลงทุนญี่ปุ่น โดยอ้างอิงจากผลการสำรวจของหอการค้าญี่ปุ่น (ซึ่งได้จัดทำมาเป็นเวลากว่า 29 ปีแล้ว) พบว่านักลงทุนชาวญี่ปุ่นส่วนมากยังคงมุมมองเชิงบวกต่อประเทศไทย โดยการเคลื่อนไหวของค่าเงินนั้นไม่ได้เป็นปัจจัยใช้พิจารณาในการลงทุน นักลงทุนบางรายมีแผนที่จะทำการลงทุนเพิ่มเติม ผลตอบรับที่เป็นบวกนี้ได้ส่งผ่านมายังการขอรับการส่งเสริมการลงทุนสุทธิ (BOI) ของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นกว่า 18.2% ใน 1H56 จากผลการสำรวจ นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาระบบถนน (62% ของผู้ตอบแบบสำรวจ) การเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน (38%) การพัฒนาระบบรถไฟ (37%) และการศึกษา (33%). ความสามารถของแรงงานนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการนั้นกังวลเสมอมา (36%) ธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์จะยังคงเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดของการลงทุนของชาวญี่ปุ่น แต่ผู้ประกอบการ SME ชาวญี่ปุ่นก็เริ่มเข้ามาทำการลงทุนมากขึ้น ตามคำบอกกล่าวของ TICON และ IEAT

ด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยังคงมีมุมมองเป็นบวก โดยยังคงคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตในปี 2556 สนับสนุนโดย 1) เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว 2) ตลาดคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์โลกที่กำลังฟื้นตัว 3) การขยายตัวของภาคการบริโภคจากการขยายตัวของภาคการผลิต 4) การใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสำหรับการลงทุน และ 5) ความกดดันของอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงต่ำ โดย FTI ได้ทำการจัดกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมออกเป็น 11 กลุ่มด้วยกัน เพื่อให้ง่ายต่อการพัฒนา วางแผน เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันไว้ กลุ่มกระดาษ/ บรรจุภัณฑ์ดูจะมีข้อได้เปรียบ เนื่องจากอุปสงค์ยังคงสูงจากการขยายตัวของภาคการผลิต โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร ซึ่ง TICON ยังพบว่าการขยายตัวของธุรกิจที่มีมูลค่าเพิ่มอย่างธุรกิจอาหารและเครื่องปรุงอาหารยังคงเพิ่มขึ้นย่างต่อเนื่องในนิคมอุตสาหกรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4