รัฐบาลหนุน OTOP IN THE CITY โมเดลต้นแบบศูนย์กระจายสินค้าโอทอป ระดับพรีเมี่ยมใต้ทางด่วน ชูนโยบายสร้างรายได้กลับคืนชุมชน

ศุกร์ ๐๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๓ ๑๑:๑๕
เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่ AEC อย่างต่อเนื่องสำหรับ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวง มหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการพัฒนาระบบกลไกและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ล่าสุดได้รับมอบหมายจากรัฐบาลภายใต้การบริหารของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้มีการดำเนินการจัดตั้ง “โครงการศูนย์แสดง จำหน่ายและกระจายสินค้า OTOP บริเวณใต้ทางด่วนในกรุงเทพมหานคร เพลินจิต-สีลม-รามอินทรา ” ซึ่งถือเป็นโครงการต่อเนื่องของรัฐบาลในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและขยายตลาดสินค้า OTOP ให้กว้างขวางมากขึ้น มีระยะเวลาในการดำเนินงาน 6 เดือน โดยมีเป้าหมายหลักของการจัดทำโครงการนี้ คือ การสร้างวิสัยทัศน์และแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ เพื่อผลในด้านการตลาดและยอดจำหน่ายในอนาคต

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เผยว่า “สำหรับความร่วมมือจากกระทรวงคมนาคม ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ให้เราได้ใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สีลม — เพลินจิต - รามอินทรา เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์จำหน่ายและกระจายสินค้า OTOP เป็นการสนับสนุนให้ชาวบ้านผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ คนไทยมีฝีมือละเอียดมากในการเอาเสน่ห์ใส่ลงไป ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความแตกต่างจากสินค้าที่ผลิตจากโรงงาน และสินค้าของเราก็ต้องสร้างเรื่องราวที่มีรากลึกของสังคมใส่ลงไป จะทำให้ชาวต่างชาติที่ซื้อสินค้า OTOP ของเราไป เกิดความจดจำและอยากกลับมาซื้อสินค้าที่ผสมผสาน วัฒนธรรมของไทยลงไปอีกด้วย ทั้ง 3 จุดจะเปิดให้บริการแตกต่างกันตามลักษณะของพื้นที่และชุมชนในแต่ละแห่ง สิ่งที่อยากจะฝากกับผู้ผลิตก็คือ ผลิตด้วยใจ ผลิตจากทรัพยากรท้องถิ่นจริงๆ ใส่ภูมิปัญญา และเรื่องราวลงไปจะก่อให้เกิดเอกลักษณ์และความพิเศษ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา และนั่นคือการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า OTOP ไปในตัวเอง ต้องขอขอบคุณ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม มา ณ ที่นี้ ในการเข้ามาสนับสนุนพื้นที่ในการจัดแสดงครั้งนี้ด้วย ”

ทางด้านเจ้าของแนวคิด OTOP IN THE CITY นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เผยว่า “เราได้รับแนวทางนโยบายจากท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เล็งเห็นความสำคัญของสินค้า OTOP และท่านก็ได้สั่งการให้ทางกระทรวงมหาดไทย จัดหาพื้นที่แสดงสินค้าในเขตพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อจะได้ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ระหว่างการหาสถานที่อยู่นั้น เรามีโอกาสเดินทางผ่านบริเวณใต้ทางด่วน จึงเกิดแนวความคิดว่าถ้าเรานำพื้นที่ตรงนี้ มาทำให้เกิดประโยชน์ด้วยการนำเอาสินค้า OTOP มาจำหน่าย ก็จะยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย และหลังจากที่เราเล็งเห็นพื้นที่ที่ต้องการแล้ว จึงได้เข้าไปประชุมร่วมมือกับการทางพิเศษฯ ทันที และลงทำการสำรวจพื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นั่นก็คือ 3 จุดหลักที่เราได้สรุปแล้วว่าเหมาะสมกับการดำเนินการก่อสร้าง คือ สีลม เป็นจุดตัดสุรวงศ์กับสีลม และยังเป็นชุมทางตอนปลายของถนนสีลมกับบางรัก และเป็นที่ตั้งของโรงแรมใหญ่ๆ และมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เยอะมาก มีพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ เราจึงประชุมสรุปกันว่าจะจัดตั้งให้เป็น ไนท์บาซาร์ มีสินค้า OTOP ระดับ 3-5 ดาว จุดเพลินจิต 200 ตารางวา จะนำเอาสินค้าเกรดพรีเมี่ยม มาตั้งโชว์จะจัดเป็นโชว์รูมสินค้า จุดที่ 3 บริเวณใต้ทางด่วนรามอินทรา พื้นที่ 8 ไร่ มีที่จอดรถ ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย เรามีการสนับสนุน เทคนิค และช่องทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น และเราก็เล็งเห็นถึงการต้อนรับเข้าสู่ความเป็น AEC ด้วย จึงต้องการเพิ่มมูลค่าของสินค้า OTOP ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อาทิ การทำผักตบชวา บางประเทศก็ทำคล้ายกับประเทศไทย แต่จะแตกต่างตรงที่ฝีมือ แพคเกจจิ้ง และคุณภาพความคงทนถาวร ดีไซน์ รวมไปถึงเรื่องราคาอีกด้วย เราจึงต้องเร่งให้ชาวต่างชาติรู้จักสินค้าของเราให้เร็วที่สุด โครงการใต้ทางด่วนนี้ก็เปรียบเสมือนว่า กรุงเทพนั้นเป็นศูนย์กลางของประเทศอยู่แล้ว เพียงแค่เพิ่มเติมเอาสินค้า OTOP เข้ามาจำหน่ายที่ศูนย์กลางจุดนี้ก็จะทำให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด และชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ก็มักจะมาที่กรุงเทพฯก่อนเป็นอันดับแรก และถ้าที่กรุงเทพฯมีสินค้า OTOP จากทั่วทุกภาคมารวมอยู่ที่นี่แล้ว ก็น่าจะทำให้ชาวต่างชาติ มีกำลังในการซื้อทันที โดยไม่ต้องเดินทางไปซื้อถึงแหล่งผลิตตามจังหวัดนั้นๆ”

ในขณะที่ นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เผยว่า “สำหรับโครงการจัดตั้งศูนย์การแสดง จำหน่าย และกระจายสินค้า OTOP ใต้ทางด่วนกรุงเทพมหานครฯ ในครั้งนี้ เรามีความคาดหวังอยากให้สินค้า OTOP เป็นสินค้าที่ใครๆ นึกถึงสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่าในอดีตแทนที่จะต้องเดินทางไปซื้อตามแหล่งชุมชนที่ผลิตขึ้นเท่านั้น โดยเราจะจัดสรรให้มีการหมุนเวียนผู้ประกอบการเข้ามาจำหน่ายสินค้าทุกๆ 15 วัน หรือ 30 วัน เพื่อให้สินค้า OTOP ของทุกจังหวัดได้มีโอกาสอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ตามเทศกาลและความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญสามารถสั่งสินค้าได้ ณ จุดจำหน่าย เป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าได้อย่างดีทีเดียวครับ สำหรับโครงการนี้เราได้รับการอนุเคราะห์จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทยให้ใช้พื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนทั้ง 3 แห่งเป็นระยะเวลา 5 ปีครับ

จุดแรก คือบริเวณใต้ทางด่วนสีลม เราจะทำเหมือนกับช้อปปิ้งสตรีท ไนท์บาซาร์ หรือตลาดถนนคนเดิน ตรงนี้เราจะมีศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยวกับการแสดงต่างๆ มาประกอบกับสินค้าที่เป็นระดับ Souvenir เนื่องจากย่านสีลมจะมีนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติมาก มีสินค้า OTOP ระดับ 3-5 ดาว และก็มีการแสดงอีเว้นท์ ประกอบทุกคืน มีโชว์ศิลปะไทย ชกมวย ฟันดาบ และรำไทย ส่วนที่เพลินจิต จะเป็นย่านโรงแรม ย่านช้อปปิ้งใหญ่ๆ จะทำเหมือนกับเป็นโชว์รูม Display สินค้า OTOP สามารถสั่งซื้อจากภายในร้านหรือทำการสั่งซื้อแล้วจัดส่งให้ถึงที่ก็ได้ สำหรับรามอินทรา จะจัดในรูปแบบของ Avenue เนื่องจากย่านนั้น ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้าน ลักษณะจึงเป็นแบบไลฟ์สไตล์ ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง พากันมากินข้าวเย็น มาซื้อของใช้ อาหารการกินต่างๆ เน้นสินค้าประเภท อาหาร ผัก ผลไม้ตามหน้าฤดูกาล รวมถึงพืชผลทางการเกษตรที่ล้นตลาด เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีที่ระบายสินค้า จะเอาผู้ปลูก มาพบกับผู้บริโภคโดยตรง

ปัจจุบันสินค้า OTOP มีอยู่มากกว่า 70,000 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเยอะมากและโครงการนี้ฯ เหมาะสำหรับที่จะช่วยเพิ่มช่องทางในการจำหน่าย และกระจายสินค้าได้อย่างดีแน่นอนครับ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๐ DEK ดิจิทัลมีเดีย SPU บุก Thailand Toy Expo 2024 โชว์ผลงานสุดคูล!
๑๖:๕๘ Zoho ยกระดับแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ด้วยการทำงานร่วมกันของ Generative AI และ Low-Code
๑๖:๐๓ Dent Talk : Fresh Up Your Knowledge ไม่รู้.ไม่ได้แล้ววว สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า
๑๖:๓๕ โรงแรมเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ต้อนรับนักหมากรุกรวม 300 คน กว่า 50 ประเทศ ในการแข่งขัน Bangkok Chess Club Open ครั้งที่ 21 ประจำปี
๑๖:๓๑ 'Water War Chiang Mai 2024' เทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุด เปียกสุด! เดือดสุด! จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
๑๖:๒๗ TB Media Global จับมือ MQDC จัดกิจกรรมสงกรานต์ The Vibrant Forestias :Sook-San Songkran บนผืนป่าของ The
๑๖:๔๗ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมประจำปี 2023
๑๖:๐๐ โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง สุขในงานเบิกบานในชีวิต
๑๖:๒๙ หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำ
๑๖:๒๘ คณะดิจิทัลมีเดีย SPU ขอเชิญร่วมกิจกรรมเสวนา หัวข้อ AI Trends Unlock Limitless Creative Potential in Digital