นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อัคคีภัยเป็นสาธารณภัยที่เกิดบ่อยครั้ง โดยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ พ.ศ.2545-2554 เกิดอัคคีภัยเฉลี่ย 1,693 ครั้งต่อปี มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 42 คน ต่อปี มูลค่าความเสียหาย 1,105,245,397 บาทต่อปี คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 เห็นชอบให้ปี พ.ศ.2557 เป็นปีแห่งการรณรงค์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย ภายใต้หัวข้อ “อัคคีภัยป้องกันได้ ต้องใส่ใจ ไม่ประมาท” โดยมอบหมาย ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมการป้องกันและแก้ไขปัญหา อัคคีภัยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นวางระบบการประสานการปฏิบัติงานด้านป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงอัคคีภัย ครอบคลุมทั้งสำนักงาน โรงแรม อาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมกำหนดให้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุอัคคีภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่เสมอ ควบคู่กับการเข้มงวดการดำเนินมาตรการตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมถึงการจัดให้มีแผนผังทางหนีไฟและทางเข้าออกอาคารกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า นอกจากการดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยในบริเวณที่อยู่อาศัย สำนักงาน และอาคารต่างๆ แล้ว ปภ.ได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมป้องกันและเฝ้าระวังไฟป่า โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สภาพป่ามีความชื้นน้อยและอากาศแห้ง ส่งผลให้เกิดไฟป่าได้ง่าย ทั้งนี้ การส่งเสริมให้ปี พ.ศ.2557 เป็นปีแห่งการรณรงค์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยตามนโยบายของรัฐบาล จะทำให้ทุกภาคส่วน มีความรู้ ความตระหนัก สามารถปฏิบัติตนเมื่อเกิดอัคคีภัยได้อย่างถูกต้อง รวมถึงมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารจัดการอัคคีภัยของประเทศมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น สามารถลดความสูญเสียจากอัคคีภัยได้ในระดับหนึ่ง