การจัด Singapore LED Industry Forum เป็นหนึ่งในกิจกรรมการโปรโมตงาน LED Expo Thailand 2014 ก่อนการเดินสายโปรโมตงานครั้งต่อไปที่ประเทศไต้หวันและพม่า งาน LED Expo Thailand 2014 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22-24 พฤษภาคม 2557 ณ อาคาร 7-8 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยการจัดงาน Singapore LED Industry Forum ได้รับความสนใจจากบริษัทผู้ผลิตแอลอีดี สมาคม และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไฟฟ้าแสงสว่างในประเทศสิงคโปร์กว่า 50 คน เข้าร่วมฟังเสวนาภายใต้หัวข้อ “The outlook of South East Asia’s LED Sectors” โดยการจัดฟอรั่มดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีกลางให้ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมแอลอีดี ได้แลกเปลี่ยนความรู้และแสดงทัศนวิสัยอย่างเปิดกว้าง รวมไปถึงการเพิ่มความเข้าใจในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแอลอีดี เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงาน
การเสวนาครั้งนี้ มุ่งเน้นเรื่องทิศทาง และแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจแอลอีดีในภูมิภาคอาเซียน และความต้องการเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงาน และเทคโนโลยีแอลอีดีสามารถเป็นโซลูชั่นในการประหยัด การใช้พลังงานได้อย่างไร ผู้ที่เข้ามาร่วมฟังการเสวนาต่างแสดงความคิดเห็นว่าต้องการให้หน่วยงานภาครัฐหันมาส่งเสริมการ ใช้เทคโนโลยีแอลอีดี เช่นรัฐบาลไทยที่กำหนดนโยบายการลงภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าแอลอีดี เป็นต้น ซึ่งนโยบายต่างๆ ของภาครัฐสามารถกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศจำนวนมหาศาล
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 20 ในปี พ.ศ. 2573 โดยได้ดำเนินงานภายใต้โครงการ “Demand Side Management (DSM)” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง เช่น อุปกรณ์แสงสว่าง LED ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมสำคัญที่ก่อให้เกิดผลการประหยัดพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม ในอนาคต ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดตลาดผลิตภัณฑ์ LED ในประเทศอย่างยั่งยืน กฟผ. จึงเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพในการ จัดงาน LED Expo Thailand 2014 ครั้งนี้
ในการเสวนา Singapore LED Industry Forum ได้รับเกียรติจาก นายพิธาน ชัยจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ ด้านการใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายสตีเว่น แควก ผู้บริหารจากบริษัท SR iLLUMINATION / MOSO POWER SUPPLY และนาย คาเพียง ลอว์ ประธานบริษัท VFZLED Co., Ltd. เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ และเปิดเผยว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเนื่องจากปัจจัยทางด้านภูมิศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ได้รับการโหวตว่ามีการเติบโตของเศรษฐกิจมากที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก และยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยจะมีการเปิดเขตการค้าเสรีหลังจากการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีพ.ศ.2558