ทั้งนี้ Earth Hour มุ่งหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต เพื่อร่วมลดผลกระทบต่อโลกเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ ด้วยการปิดไฟ และร่วมดำเนินการอื่น ๆ ที่มากไปกว่าการปิดไฟ 1 ชั่วโมง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ในระดับโลก โดยหนึ่งในกิจกรรมที่มากกว่าการปิดไฟคือ กิจกรรม Earth Hour City Challenge (EHCC)ซึ่งมุ่งหวังให้เมืองต่าง ๆ ทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่อนาคตที่เราจะสามารถใช้ทรัพยากรโลกเพียงใบเดียว (One Planet Future) นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนา และเผยแพร่ข้อมูลด้านการบรรเทาผลกระทบ (mitigations) และการปรับตัวเพื่อตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (adaptations) เพื่อให้เมืองทั่วโลกได้มีเวทีของการนำเสนอความมุ่งมั่นของท้องถิ่น และแผนการดำเนินงานของแต่ละเมือง เพื่อเป็นการแบ่งปัน และเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเมืองอื่น ๆ ทั่วโลก
โดยใน EHCC 2014 นี้ มีเมืองต่าง ๆ จาก 14 ประเทศเข้าร่วมในการประกวด ประกอบด้วย แคนาดา อเมริกา บราซิล เม็กซิโก โคลัมเบีย สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เบลเยี่ยม แอฟริกาใต้ อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และประเทศไทย ซึ่งเทศบาลในประเทศไทยได้รับเลือกให้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายถึง 3 แห่งด้วยกัน ได้แก่ เทศบาลตำบลขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ, เทศบาลตำบลเมืองแกลง จังหวัดระยอง และเทศบาลเมืองหนองสำโรง จังหวัดอุดรธานี โดยคณะกรรมตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิจะทำการทบทวนมาตรการต่าง ๆ ของเมือง รวมถึงพันธะสัญญาของเมืองจากรายงานที่แต่ละเมืองจัดทำขึ้น เพื่อคัดเลือกเมืองต้นแบบของแต่ละประเทศสำหรับรางวัล “National Earth Hour Capital” ซึ่ง เทศบาลตำบลเมืองแกลง จังหวัดระยอง ได้รับคัดเลือกเมืองต้นแบบ “National Earth Hour Capital” ของประเทศไทยในปีนี้ โดยเทศบาลตำบลเมืองแกลง ได้รายงานผลการดำเนินงานด้านการรักษาสภาพภูมิอากาศ ซึ่งให้ความสำคัญถึงการบริหารจัดการของเสีย และการใช้ประโยชน์จากขยะมูลฝอยอย่างมีประสิทธิภาพ การให้ความสำคัญกับพลังงานทดแทนโดยสนับสนุนการติดตั้งโซล่าร์เซลล์ และการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับเมืองผ่านกิจกรรมตลาดสีเขียว และเกษตรเมือง