นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทย ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า “ในปัจจุบัน สภาวะสังคมไทยมีการแปรเปลี่ยนไป ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลทำให้รูปแบบการดำรงชีวิตของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงตามไปตามไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิตอล ที่โดดเด่นเรื่องช่องทางสังคมออนไลน์ โดยล่าสุดเมืองไทยประกันชีวิตได้ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำทางด้าน Digital ในธุรกิจประกันชีวิต (Digital Insurer) ได้นำแอพพลิเคชั่นชื่อว่า ี“Biz in the box” ซึ่งเป็นการรวบรวมแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในการนำเสนอขายแบบประกัน ที่บริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งตัวแทนและลูกค้าเข้าถึงการประกันชีวิตในรูปแบบที่ง่ายขึ้น โดยมี Financial Needs Analysis แอพพลิเคชั่นที่ช่วยวางแผนทางการเงินให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และตรงตามความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้เมื่อลูกค้าสนใจทำประกันก็จะมีแอพพลิเคชั่น Smart Proposal Plus ที่ตัวแทนสามารถนำเสนอแบบประกันได้ทันทีด้วยการรวบรวมแบบประกันชีวิตที่หลากหลาย พร้อมคำนวณเบี้ยประกันชีวิตและผลประโยชน์ของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีทางเลือกให้สามารถสมัครทำประกันโดยผ่าน e-Application เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและลูกค้าสามารถเลือกชำระเบี้ยประกันภัยด้วยเครื่อง mPos ได้ทันที
พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เน้นความคุ้มครองชีวิตและความคุ้มครองสุขภาพ โดยเฉพาะโรคร้ายแรงที่เกิดกับคนไทยในยุคปัจจุบัน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์สำหรับผู้ที่แสวงหาความอุ่นใจในเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” ซึ่งบริษัทฯ ขอนำเสนอความคุ้มครองใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
โครงการเมืองไทย ยิ้มสู้ โรคร้าย สร้างความมั่นใจให้ผู้เอาประกันด้วยเบี้ยประกันภัยคงที่ตลอด 20 ปี แต่ให้ความคุ้มครองชีวิตหรือโรคร้ายแรงยาวนานถึงครบอายุ 99 ปี ช่วยเตรียมความพร้อม เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคร้ายให้ผู้เอาประกันด้วยความคุ้มครองครอบคลุมถึง 15 โรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ หรือ โรคมะเร็ง หรือ โรคหลอดเลือดสมอง หรือ การเจ็บป่วยระยะสุดท้าย เป็นต้น มอบผลประโยชน์รวมสูงสุด 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา กรณีตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรงเพื่อเป็นเงินก้อนในการรักษาหรือรับความคุ้มครองชีวิต สูงสุด 2,000,000 บาท (สำหรับแผน 7 อายุ 16-65 ปี) สำหรับโครงการฯ นี้ รับประกันผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 1 - 65 ปี(การพิจารณารับประกันเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด เงื่อนไขและข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์) และถูกใจผู้เอาประกันยิ่งขึ้น เพราะเบี้ยประกันภัยของความคุ้มครองชีวิต สามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีฯได้ (ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 172 ซึ่งประกาศ ณ วันที่ 30 ธ.ค.51)
ในโอกาสนี้บริษัทฯ ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของโครงการเมืองไทย ยิ้มสู้โรคร้าย เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคให้เกิดการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ตลอดจนความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีต่อบริษัทฯ ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ได้รับเกียรติจากคุณอริศรา กำธรเจริญ หรือหมวย เป็นผู้นำเสนอและถ่ายทอดเรื่องราว ผลประโยชน์และความคุ้มครอง ผ่านแนวคิด “ภาระค่าใช้จ่ายที่มากับโรคร้าย เป็นปัญหาใหญ่ที่ใครก็อยากหาตัวช่วยเพื่อแบ่งเบาภาระดังกล่าว เตรียมพร้อมรับมือตั้งแต่วันนี้ ด้วยโครงการเมืองไทย ยิ้มสู้โรคร้าย ช่วยแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้ง ทำให้คุณกลับมายิ้มได้อีกครั้ง” ซึ่งสอดคล้องความเป็นแบรนด์แห่งความสุขและรอยยิ้ม โดยจะออกอากาศทางโทรทัศน์ในวันที่ 27 มีนาคมนี้เป็นต้นไป
“บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาในทุกๆ ด้าน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพเพื่อคนไทย ตลอดจนการให้บริการแก่ลูกค้าผ่านกิจกรรมเมืองไทย Smile Club ที่จัดขึ้นตลอดปี ควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและมั่นคงแข็งแกร่ง เพื่อความอุ่นใจที่มาพร้อมความสุขและรอยยิ้มของลูกค้าทุกท่านตลอดไป” นายสาระกล่าวสรุป