ทีเส็บเดินหน้าสานต่อแผนผลักดันประเทศไทย เวทีสู่ความสำเร็จของงานแสดงสินค้าแห่งอาเซียน

ศุกร์ ๐๔ เมษายน ๒๐๑๔ ๑๑:๑๘
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเกมรุก เผยศักยภาพความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของไทย ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ และศูนย์กลางธุรกิจงานแสดงสินค้าแห่งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ชูความสำเร็จ 3 ด้าน คือ การดึงงาน การยกระดับงานแสดงสินค้านานาชาติ และการส่งเสริมการค้าการลงทุน พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนความร่วมมือ และบทบาทที่ปรึกษาในการสร้างโอกาสทางธุรกิจผ่านเวทีความสำเร็จของงานแสดงสินค้านานาชาติของไทย โดยยังคงแผนการทำงานภายใต้แผนกลยุทธ์ 3 ปี ได้แก่ ’ผู้เชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจ (Connector/Facilitator)’ เน้นการเชื่อมโยง และสนับสนุนภาคเอกชนขยายเครือข่ายทางธุรกิจ, และ ’พันธมิตรทางการตลาด (Marketer/Partner)’ เน้นการทำการตลาดต่างประเทศและพัฒนาแคมเปญการตลาด รวมถึงการให้บริการและการอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร, ตลอดจนบทบาทของ ’ผู้ริเริ่มสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ’ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม (Creator/Initiator) โดยชูบทบาทการกำหนด ริเริ่ม มุ่งเน้นการหาโอกาสและดึงงานระดับนานาชาติเข้ามาจัดในประเทศไทย ในแผนกลยุทธ์ปี 2557 ทีเส็บ จะเน้นบทบาทในการเป็นพันธมิตรทางการตลาดเน้นการเจาะตลาดใหม่เพื่อสร้างการรับรู้ เพื่อเพิ่มจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศไทย

ภายใต้ความสำเร็จของประเทศไทย การดำเนินงานส่งเสริมอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2557 ทีเส็บมุ่งเน้นการต่อยอดความสำเร็จในการดึงงานแสดงสินค้านานาชาติใหม่ ๆ (New Show) ในปีพ.ศ. 2557 ในอุตสาหกรรมที่เป็นที่ต้องการของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เข้ามาจัดในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ได้แก่ งาน Beyond Beauty ASEAN 2014, งาน Cosmobeaute 2014 และงาน Cosmex 2014 เป็นต้น งานในอุตสาหกรรมคมนาคมขนส่งและยานยนต์ ได้แก่ งาน Automotive Aftermarket Industry and Tuning Trade Fair (AAITF) และงาน Smart Rail Congress & Expo 2014 เป็นต้น และงานในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ งาน Pulier Asia Pacific 2014, งาน International Security & Safety Expo & Forum 2014 และงาน Pharmex Asia 2014

นอกจากนี้ ทีเส็บ ยังสานต่อบทบาทในฐานะผู้เชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจ ชูความแข็งแกร่งโอกาสทางธุรกิจของประเทศไทยสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยส่งเสริมการร่วมทุน (Joint Venture) ระหว่างบริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้าของไทยที่มีศักยภาพ และบริษัทผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จากต่างประเทศ ตอกย้ำความสำเร็จของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของไทย ที่เป็นจุดสนใจของธุรกิจไมซ์จากนานาชาติ สำหรับการขยายฐานต่อยอดความสำเร็จสู่ภูมิภาคอาเซียน อาทิ การลงทุนร่วมกันระหว่างบริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้จัดงานสัญชาติไทย และบริษัท ไดเวอร์ ซิฟายด์ คอมมูนิเคชั่นส์ เอเชีย (Diversified Communications Asia) บริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้าชั้นนำของโลกจากสหรัฐอเมริกาที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งจะร่วมกันยกระดับการจัดงาน Thailand Franchise and Business Opportunities (TFBO) และงาน Thailand Retail, Food & Hospitality Services (TRAFS) พร้อมด้วยความร่วมมือของบริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป (Motor Expo) และบริษัท ทาซัส กรุ๊ป (Tarsus Group) ในการนำเอางาน Automotive Aftermarket Industry and Tuning Trade Fair (AAITF) เข้ามาจัดร่วมกับงาน Motor Expo 2014 ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพของงาน Motor Expo ให้ยิ่งใหญ่และครบเครื่องทางด้านยานยนตร์และอุปกรณ์ยานยนตร์ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ อุตสาหกรรมการแสดงสินค้าไทยยังคงมีแนวโน้มสดใส ดังจะเห็นได้จากการที่ประเทศไทยเริ่มมีบริษัทจัดงานต่างชาติเข้ามาตั้งบริษัทในประเทศไทยและใช้ฐานประเทศไทยต่อยอดทางธุรกิจเพื่อรองรับงานแสดงสินค้าในหลายอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นที่ต้องการของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งความเคลื่อนไหวทั้งหมดดังกล่าว จะเป็นส่วนสำคัญช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของไทยให้ก้าวสู่การแข่งขันที่เปิดกว้างขึ้น และจะมีการผลิตงานแสดงสินค้านานาชาติที่มีคุณภาพสู่ตลาด เกิดการแตกโพรไฟล์งานภายใต้งานหลัก เติมเต็มภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า “การร่วมทุน (Joint Venture) การควบรวมบริษัท และการสร้างเครือข่ายพันธมิตร ในอุตสาหกรรม การแสดงสินค้าจากยุโรปและอเมริกามีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น สอดคล้องความต้องการในอาเซียนที่กำลังขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยประเทศไทยจะต้องเร่งพัฒนากลยุทธ์การตลาดเพื่อให้ไทยยังคงครองตำแหน่งศูนย์กลางอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของอาเซียน โดยอาศัยปัจจัยเชิงบวกในการดึงดูดผู้จัดงานเข้ามาลงทุน อาทิ จุดยุทธศาสตร์ของประเทศไทยที่อยู่ใจกลางอาเซียน ความพร้อมด้านระบบขนส่งสาธารณูปโภคที่เชื่อมโยงอาเซียน และความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศ จะทำให้งานแสดงสินค้าที่มาจัดในประเทศไทยไม่ใช่เป็นเพียงงานในระดับประเทศแต่จะเป็นงานในระดับภูมิภาค โดยในปีพ.ศ. 2557 ทีเส็บเชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงงานแสดงสินค้าใหม่มาจัดที่ประเทศไทยได้ถึง 8 งานและพัฒนางานที่มีอยู่เดิมให้เติบโต 32 งาน จากจำนวนงานทั้งหมด 83 – 85 งานในปีนี้”

นอกจากนี้ ทีเส็บยังให้ความสำคัญในงานด้านการตลาดทางตรง ผ่านช่องทางดิจิตอลซึ่งยังคงเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของไทยไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด อาทิ แอพพลิเคชั่นบนมือถือ iFair ที่เน้นประชาสัมพันธ์งานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นในประเทศไทย รวมถึงการสื่อสารผ่านเว็บไซท์ www.businesseventsthailand.com และโซเชียลมีเดียของทีเส็บ และวารสารออนไลน์รายเดือน สำหรับอัพเดทความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของไทยอย่างต่อเนื่อง

ในปีพ.ศ. 2556 อุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของไทย สามารถดึงดูดนักเดินทางกลุ่มไมซ์เป็นจำนวนทั้งสิ้น 191,319 คน คิดเป็นรายได้มูลค่า 14,524 ล้านบาท โดยในปี พ.ศ. 2557 ทีเส็บตั้งเป้านักเดินทางไมซ์กลุ่มการแสดงสินค้านานาชาติ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากเป้าหมายปีที่ผ่านมา เป็นจำนวน 181,200 คน และมีการเติบโตของรายได้ร้อยละ 10 จากเป้าหมายปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ารวม 15,400 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าจะเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการส่งเสริมให้รายได้ของอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2557 เป็นไปตามเป้าหมายคือจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 987,000 คน และสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ คิดเป็นมูลค่า 96,900 ล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest