นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคม - พฤษภาคม เป็นช่วงที่หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก สร้างความเสียหายต่อสิ่งปลูกสร้าง และเป็นอันตรายต่อประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงพายุฤดูร้อนให้เตรียมพร้อมรับมือและเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยเมื่อเกิดพายุฤดูร้อน ดังนี้ ติดตามสภาพอากาศอยู่เสมอและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบอาคารบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างบริเวณรอบบ้าน โดยเฉพาะเสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณา และต้นไม้ ให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง จัดเก็บสิ่งของที่มีน้ำหนักเบาและสามารถปลิวตามลมได้ให้มิดชิด ติดตั้งสายล่อฟ้าในอาคารสูง จะช่วยป้องกันการถูกฟ้าผ่า หากพบเสาไฟฟ้าหรือป้ายโฆษณาอยู่ในสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง สายไฟฟ้าขาด หย่อนต่ำ กิ่งไม้พาดแนวสายไฟฟ้า ให้แจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ในขณะที่เกิดพายุฤดูร้อน ให้หลบในอาคารที่มั่นคงแข็งแรง ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด ไม่หลบเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตราย โดยเฉพาะบริเวณต้นไม้ใหญ่ ใกล้ป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้า เพราะอาจถูกล้มทับและได้รับอันตรายจากการถูกฟ้าผ่า รวมถึงงดใช้โทรศัพท์มือถือและเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดบริเวณที่โล่งแจ้ง เพราะขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง อาจเกิดฟ้าผ่า ทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังพายุฤดูร้อนอย่างใกล้ชิด จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200
www.disaster.go.th