เจ.พี. มอร์แกน และมูลนิธิ เจ.พี. มอร์แกน เชส จับมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของประเทศไทย เปิดตัวโครงการพัฒนาที่ส่งเสริมธุรกิจเพื่อสังคมในกลุ่มเยาวชนและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจในชนบท
“โครงการความร่วมมือผลักดันการยกระดับธุรกิจขนาดย่อมในชนบทและการสร้างธุรกิจเพื่อสังคมในกลุ่มเยาวชน” ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทั้งภาครัฐและเอกชนหลายองค์กรมีเป้าหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ 3 กลุ่ม คือกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งกิจการ กลุ่มผู้ที่มีความคิดอยากตั้งธุรกิจแต่ยังขาดประสบการณ์และทักษะและกลุ่มเยาวชนในเมืองที่สนใจการทำธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprises โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะใช้สถาบันภายในที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสังคม 3 สถาบัน อันได้แก่ สถาบันทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยโลกคดีศึกษาและศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ ในการขับเคลื่อน ให้คำแนะนำและสนับสนุนโครงการเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการระดับชุมชนให้ดำเนินกิจการได้อย่างประสบผลสำเร็จอย่างน้อย 400 รายภายในปีหน้า
รองศาสตราจารย์วิทยา ด่านธำรงกูล รองผู้อำนวยการสถาบันทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวว่าโครงการนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนที่มีรายได้น้อยให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้จากธุรกิจที่ยั่งยืน รองศาสตราจารย์วิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้เป็นโครงการใหม่ที่ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
“นอกจากหน่วยงานหลักของธรรมศาสตร์ทั้งสามสถาบันที่กล่าวมาแล้ว เรายังขยายพันธมิตรออกไปสู่หลายองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อสร้างเครือข่ายและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่โครงการ เรามีความยินดีที่หน่วยงานเหล่านี้รวมทั้งเจ.พี. มอร์แกน พันธมิตรหลักของเรา จะได้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย,” รองศาสตราจารย์วิทยา กล่าว
“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการสร้างชุมชนให้เข้มแข็งและยั่งยืนรวมทั้งการสร้างเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมในกลุ่มเยาวชนของประเทศไทย เรามั่นใจว่าโครงการนี้จะมอบประสบการณ์ทางธุรกิจที่จำเป็นรวมทั้งทักษะที่จะนำพาพวกเขาไปสู่อนาคตที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน”หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ประเทศไทย เจ.พี. มอร์แกน กล่าว
การแถลงเปิดตัวโครงการในวันนี้ซึ่งเป็นโอกาสเดียวกันกับที่ เจ.พี. มอร์แกน ฉลองครบรอบ 50 ปี ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของธนาคารในการสนับสนุนชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก
ในแต่ละปี เจ.พี. มอร์แกนและมูลนิธิ เจ.พี. มอร์แกน เชส บริจาคเงินประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่หน่วยงานที่ไม่แสวงหาผลกำไรทั่วโลกรวมทั้งนำพนักงานร่วมกิจกรรมอาสาสมัครในชุมชนพื้นที่ต่างๆ และการให้ความช่วยเหลือผ่านทางทรัพยากร เงินทุน ความแข็งแกร่ง ความกว้างขวางทั่วโลกและความเชี่ยวชาญ