และเพื่อให้มีการต่อยอดในกิจกรรมดีที่ที่เป็นแนวคิดของเยาวชน ในระหว่างการเข้าค่ายทาง กฟผ.จะพิจารณาคัดเลือกโครงการของนิสิต นักศึกษา ที่ส่งเข้ามาประกวด และมอบทุนสนับสนุนให้เยาวชนไปดำเนินการในสถาบันหรือในพื้นที่ชุมชนที่เสนอเข้ามาตามโครงการ โครงการละ 100,000 บาท จำนวน 20 โครงการ รวมเป็นเงิน 2 ล้านบาท โดยผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้มอบทุนดังกล่าว และได้มอบทุนเพื่อการนำไปจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องอีก 10 รางวัลรางวัลละ 15,000 บาทอีกด้วย
ทั้งนี้ในระหว่างการจัดกิจกรรมค่าย เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับรู้เรื่องราว ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตนเป็นคนดี และแนวทางในการทำประโยชน์เพื่อสังคม พร้อมทั้งรับการถ่ายทอดประสบการณ์ในการน้อมนำพระราชดำริมาดำเนินชีวิตและการปฎิบัติหน้าที่ โดย นายปัญญา ปุลิเวคินทร์ หัวหน้าศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ และเจ้าหน้าที่ของ กฟผ.ที่ดูแลชุมชนของเขื่อนวชิรลงกรณ์
สำหรับ อ.ปัญญา ปุลิเวคินทร์ นั้นเป็นหนึ่งของผู้ที่ได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่มาดำเนินชีวิต และเป็นผู้ดูงานของศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จังหวัดนครนายก ซึ่งเป็นศูนย์ถ่ายทอดการน้อมนำพระราชดำริใช้ในการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ อย่างครบงจรซึ่งเยาวชนที่เข้าค่าย ในโครงการ “กฟผ. เพาะเมล็ดพันธุ์จิตอาสาพัฒนาสังคม” หรือ EGAT CSR CAMPรุ่นที่ 6 นี้ก็จะได้รับการถ่ายทอดแนวคิด วิธีการ ในการน้อมนำแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติใช้ในการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ ตามเป้าหมาย คือ “คิดดี ทำดี” ทำประโยชน์ให้แก่สังคมและชุมชน ผ่านการถ่ายทอดแนวคิดและวิธีการจาก อ.ปัญญา อันจะก่อเกิดทักษะในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เป็นพลังในการขับเคลื่อนให้ภารกิจต่างๆ เพื่อสังคมและประเทศชาติได้สัมฤทธิ์ผลอย่างยั่งยืนต่อไป.