ทีมจิ้งจอกสยาม เจ้าของแชมป์ เดอะแชมป์เปี้ยนชิพ ฤดูกาลที่ผ่านมา วางโปรแกรมควงทีม “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” อันดับ 5 ของพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลที่แล้ว การพบกันของทั้งสองทีมเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองครบรอบ 25 ปีของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในฐานะบริษัทเจ้าของสโมสรร่วมถึงการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย ตลอดจนเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของทีมในช่วงปรีซีซั่นก่อนก้าวสู่พรีเมียร์ ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ด้วย
กำหนดการเดินทางของเหล่าขุนพลนักเตะทีมเลสเตอร์ จะเดินทางจากประเทศอังกฤษ มายังประเทศไทยในวันที่ 22 กรกฎาคม หลังจากลงเล่นเกมแรกช่วงปรีซีซั่นกับ อิลเคสตัน ไปแล้ว โดยจะมาถึงประเทศไทยในวันพุธ ที่ 23 กรกฎาคม เพื่อลงเตะกับเอฟเวอร์ตัน ในวันอาทิตย์ ที่ 27 กรกฎาคม ก่อนจะบินกลับอังกฤษในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้
การเดินทางกลับมาโชว์ฝีเท้าของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากที่เคยลงสนามเตะกับทีมชาติไทยเมื่อปี 2553 ซึ่งเลสเตอร์เก็บชัยชนะไปได้ด้วยคะแนน 2-0
ด้าน อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตรนัดนี้ เป็นความภาคภูมิใจครั้งยิ่งใหญ่ที่เราได้นำทีมของคนไทย เลสเตอร์ ซิตี้ กลับมาเล่นในประเทศไทยที่เปรียบสเมือนบ้านหลังที่ 2 ของเลสเตอร์ ซึ่งผมมั่นใจว่าจะเป็นแมตช์ที่น่าประทับใจสำหรับแฟนบอลชาวไทย”
“อีกทั้งยังนับเป็นเกียรติอย่างสูงที่จะได้ต้อนรับทีมที่มีประวัติอันยาวนานอย่าง เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นทีมชั้นนำของอังกฤษ และยังเป็นทีมที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย รวมถึงมีดารานักเตะชื่อดังอยู่มากมายอีกด้วย” รองประธานสโมสร กล่าวทิ้งทาย
สำหรับช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา เลสเตอร์ เสริมทัพด้วยการคว้านักเตะมาเพิ่มแล้ว 3 ราย คือมาร์ค อัลไบรท์ตัน (Marc Albrighton) ผู้เล่นตำแหน่งปีก เบน แฮมเมอร์ (Ben Hamer) ผู้รักษาประตู และ แมทธิว อัพสัน (Matthew Upson) ผู้เล่นกองหลังมากด้วยประสบการณ์ รวมถึงการต่อสัญญาของเหล่านักเตะปัจจุบันอย่าง แคสเปอร์ ชไมเคิล (Kesper Schimeichel) ผู้รักษาประตูทีมชาติเดนมาร์ก ซึ่งจะร่วมเล่นกับเลสเตอร์ยาวถึง 4 ปี ภายใต้การดูแลทีมของกุนซือ ไนเจล เพียร์สัน