โพลล์สำรวจความรู้สึกต่อการปกครองของรัฐบาลยุคปฏิรูปประเทศ

พฤหัส ๒๔ กรกฎาคม ๒๐๑๔ ๑๖:๑๒
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ, ดร.กุลธิดา เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษาร่วมแถลงผลสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐบาลในยุคปฏิรูปประเทศของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,142 คน สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 50.96 เป็นเพศหญิง ขณะที่ร้อยละ 49.04 เป็นเพศชาย กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 31.17 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 25 ถึง 34 ปี ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 36.34 ส่วนในด้านการประกอบอาชีพ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นลูกจ้าง/พนักงานในห้างร้านหรือบริษัทเอกชนคิดเป็นร้อยละ 30.91 และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 24.87 เป็นข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ

สำหรับคุณสมบัติสำคัญ 3 ประการของรัฐบาลในยุคปฏิรูปประเทศในความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง คือ ซื่อสัตย์/ไม่ทุจริตคอรัปชั่น คิดเป็นร้อยละ 81.17 ตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว คิดเป็นร้อยละ 79.16 และมีความเป็นกลาง/เป็นที่ไว้ใจของสังคม คิดเป็นร้อยละ 77.06 ส่วนปัญหาที่กลุ่มตัวอย่างต้องการให้รัฐบาลในยุคปฏิรูปประเทศเข้ามาแก้ไขมากที่สุด 5 อันดับ คือ ปัญหาเศรษฐกิจ/ปากท้อง/ราคาสินค้าบริโภค-อุปโภค คิดเป็นร้อยละ 82.22 ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คิดเป็นร้อยละ 80.21 ปัญหายาเสพย์ติด/การพนัน คิดเป็นร้อยละ 76.88 ปัญหาความไม่สงบในชายแดนใต้ คิดเป็นร้อยละ 73.73 และปัญหาความขัดแย้งทางความคิดด้านการเมือง คิดเป็นร้อยละ 70.93 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 68.39 อยากให้แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ

ด้านคุณลักษณะนายกรัฐมนตรีที่ต้องการในยุคของการปฏิรูปประเทศนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 48.69 ต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีความเด็ดขาดมากกว่ามีความประนีประนอม ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 39.84 ต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีความประนีประนอมมากกว่ามีความเด็ดขาด ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 11.47 ไม่แน่ใจ

สำหรับบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีในยุคการปฏิรูปประเทศนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ระบุว่าบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีในยุคการปฏิรูปประเทศคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดเป็นร้อยละ 39.32 รองลงมาคือนายพลากร สุวรรณรัฐ คิดเป็นร้อยละ 12.43 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 8.23 ร้อยละ 7.09 และร้อยละ 6.13 ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ และนายอานันท์ ปันยารชุนตามลำดับ

นอกจากนั้นยังมีนายศุภชัย พานิชภักดิ์ คิดเป็นร้อยละ 5.25 ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล คิดเป็นร้อยละ 4.12 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คิดเป็นร้อยละ 2.45 และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา คิดเป็นร้อยละ 1.93 ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 4.38 ระบุว่าบุคคลอื่น ๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา