นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย 5 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร ปราจีนบุรี ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และยโสธร รวม 13 อำเภอ 26 ตำบล โดยจังหวัดสกลนคร เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ 16 ตำบล 136 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอโพนนาแก้ว อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอพรรณานิคม และอำเภออากาศอำนวย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 4,298 ครัวเรือน สะพานเสียหาย 1 แห่ง ท่อระบายน้ำ 4 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 11,782 ไร่ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ (24 กค.57) จังหวัดปราจีนบุรี น้ำป่าจากเขาใหญ่ไหลหลากเข้าท่วมเทศบาลตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 30 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 80 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 100 ไร่ รวมถึงมีดินสไลด์บริเวณทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่งจังหวัดปราจีนบุรี กม.ที่ 18 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายเปิดเส้นทางสัญจรตามปกติแล้ว จังหวัดศรีสะเกษ เกิดน้ำท่วมฉับพลันใน 2 อำเภอ 2 ตำบล ได้แก่ อำเภอโนนคูณ ในพื้นที่ตำบลโพธิ์ บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 50 หลังคาเรือน และอำเภอเบญจลักษณ์ ในพื้นที่ตำบลหนองงูเหลือม ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ลุ่มการเกษตร ระดับน้ำท่วมลดลง จังหวัดอุบลราชธานี น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม 3 อำเภอ 5 ตำบล ได้แก่ อำเภอเดชอุดม ในพื้นที่ตำบลทุ่งเทิง บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 10 หลังคาเรือน อำเภอสำโรง ตำบลโนนกลาง และตำบลสำโรง บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบบางส่วน ถนนถูกน้ำท่วม 3 สาย และอำเภอพิบูลมังสาหารในพื้นที่ตำบลไร่ใต้ และตำบลดอนจิก บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 15 ครัวเรือน ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มการเกษตร ระดับน้ำท่วมลดลงแล้ว จังหวัดยโสธร น้ำจาก ลำน้ำโพงเอ่อล้นเข้าท่วมเส้นทางถนนลูกรังระหว่างบ้านหนองเป็ด – โต่งโต้น ตำบลหนองเป็ด อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เป็นระยะทางยาวประมาณ 50 – 100 เมตร ระดับน้ำท่วมสูง 10 – 20 เซนติเมตร ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วันนี้ สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงแจกจ่าย ถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย พร้อมเร่งตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200
www.disaster.go.th