นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวต่อว่า กรมบัญชีกลางได้พัฒนาและปรับปรุงเกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิตราชการและบัตรเติมน้ำมันอย่างต่อเนื่อง จากสถิติการเบิกจ่ายที่ผ่านมา พบว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการทั้งในและต่างประเทศ การฝึกอบรม ประชุม สัมมนา มีมูลค่าโดยเฉลี่ยปีละประมาณ 22,000 ล้านบาท และงบประมาณที่เป็นค่าเชื้อเพลิง สูงถึงปีละประมาณ 10,600 ล้านบาท อย่างไรก็ดี จากการสำรวจผลการใช้บัตรดังกล่าวของส่วนราชการจำนวน 283 แห่ง มีเพียง 52 หน่วยงาน หรือคิดเป็น 18% ที่ใช้บัตรเครดิตราชการ และ 103 หน่วยงาน หรือคิดเป็น 36% ที่ใช้บัตรเติมน้ำมันรถราชการ (Fleet Card) และหากคิดเชิงมูลค่าของการใช้บัตรเครดิตราชการ มีส่วนราชการใช้ 1,924 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.75% ของงบประมาณค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ การฝึกอบรม ประชุม สัมมนา และใช้ Fleet Card แค่ 72 ล้านบาท ซึ่งไม่ถึง 1% ของงบประมาณที่เป็นค่าเชื้อเพลิง
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สาเหตุที่มีการใช้น้อย เนื่องจากส่วนราชการอาจจะเห็นว่าการใช้บัตรเครดิตราชการและบัตรเติมน้ำมันรถราชการ ไม่สะดวกหรือคล่องตัวเท่าที่ควร หรือเกิดปัญหาข้อขัดข้องบางประการ
การจัดโครงการสัมมนาวันนี้ เพื่อให้ผู้แทนจากส่วนราชการต่างๆ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรับฟังข้อเสนอแนะในประเด็นปัญหาต่างๆ จากการใช้บัตรดังกล่าว เพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมให้มีการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
“การใช้บัตรเครดิตราชการและบัตรเติมน้ำมันรถราชการ มีประโยชน์อย่างยิ่งกับส่วนราชการ เพื่อเป็นการควบคุมค่าใช้จ่าย การป้องกันความเสี่ยงจากการถือเงินสดจำนวนมาก ช่วยลดปัญหาการทุจริต และทำให้การใช้จ่ายเงินของภาครัฐเป็นไปอย่างคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงขอเชิญชวนให้ทุกหน่วยงานร่วมกันใช้บัตรเครดิตและ Fleet Card” นายมนัสกล่าว