การชี้แจงกรณีทรัพย์สินในการแปรสภาพจากการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเป็น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่ต้องโอนให้แก่กระทรวงการคลังตามคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด เมื่อปี 2550

พฤหัส ๒๑ สิงหาคม ๒๐๑๔ ๑๕:๒๖
กรณีที่มีข่าววิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินในการแปรสภาพจากการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเป็นบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่ต้องโอนให้แก่กระทรวงการคลังตามคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด เมื่อปี 2550 ว่ามีการโอนครบถ้วนหรือไม่ อย่างไร กระทำไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมถึงการที่จะมีการจัดตั้งบริษัทท่อก๊าซธรรมชาติขึ้นใหม่จะเป็นการถ่ายโอนสาธารณสมบัติของแผ่นดินให้เอกชนเป็น เจ้าของหรือไม่ และนโยบายการบริหารกิจการของไทยที่จะดำเนินต่อไปจะเป็นการปฏิรูปหรือ เป็นการแปรรูป ครั้งที่ 2 นั้น

เพื่อความสบายใจและเข้าใจตรงกัน กระทรวงการคลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรม ธนารักษ์ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขอเรียนชี้แจง ดังนี้

1. ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีหมายแดง ที่ ฟ.35/2550 ให้คณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งใช้อำนาจมหาชนของรัฐในการเวนคืนที่ดิน การก่อสิทธิเหนือพื้นดินเพื่อวางระบบขนส่งปิโตรเลียมทางท่อและท่อก๊าซ รวมถึงอุปกรณ์ที่ประกอบกันเป็นระบบขนส่งท่อก๊าซธรรมชาติที่ฝังติดตรึงตราถาวรหรือประกอบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับที่ดิน เพื่อโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่กระทรวงการคลัง ส่วนทรัพย์สินที่ ปตท.ได้มาโดยไม่ได้ใช้อำนาจมหาชนแต่ได้มาโดยวิธีอื่น เช่น การซื้อ การจัดหา หรือแลกเปลี่ยน เป็นการได้มาตามกฎหมายเอกชนไม่ถือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินและไม่ถือเป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2550 มอบหมายกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังรับไปดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินและสิทธิ โดยให้ สตง.เป็นผู้ตรวจสอบและรับรองความถูกต้อง หากมีข้อโต้แย้งทางด้านกฎหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้พิจารณาเพื่อให้มีข้อยุติต่อไป

กรมธนารักษ์จึงแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดโดยมีผู้แทนหน่วยงานภายนอก สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและกรมที่ดินร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ผลการแบ่งแยกสรุปได้ว่า ทรัพย์สินที่จะดำเนินการแบ่งแยก ได้แก่ ทรัพย์สินที่ ปตท.มีอยู่ถึงวันแปรสภาพโดยทรัพย์สินที่จะแบ่งแยกได้แก่ทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ ปตท.ได้มาโดยการใช้อำนาจมหาชนของรัฐ คือ ที่ดินที่ได้มาจากการเวนคืน สิทธิเหนือพื้นที่ดินที่ ปตท.ได้รับมาจากการใช้อำนาจมหาชนของรัฐ และท่อส่งก๊าซธรรมชาติรวมทั้งอุปกรณ์ที่ประกอบกันเป็นระบบขนส่งปิโตรเลียมทางท่อที่ฝังตรึงตราถาวรหรือประกอบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับที่ดิน ได้แก่ ที่ดินที่เวนคืนจำนวน 106 แปลง มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท สิทธิการใช้ที่ดินของเอกชน มูลค่าประมาณ 1,124 ล้านบาท ท่อและอุปกรณที่ประกอบกันเป็นระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 14,008 ล้านบาท และท่อส่งก๊าซย่อยอีก 2 โครงการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แบ่งแยกเพื่อโอนให้กระทรวงการคลังประมาณ 15,500 ล้านบาท ส่วนท่อก๊าซในทะเล ปตท.ไม่ได้ใช้อำนาจมหาชนของรัฐเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินอันเป็นท่อในทะเล และท่อในทะเลก็เป็นการวางท่อกับพื้นใต้ทะเลมิได้มีการฝังติดตึงตราอันจะทำให้ท่อนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นส่วนควบกับที่ดินตามคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดแต่อย่างใด สำหรับทรัพย์สินส่วนที่เหลือก็เป็นทรัพย์สินที่ ปตท.ไม่ได้ใช้อำนาจมหาชนของรัฐในการได้มา เพราะเป็นการได้มาโดยการจัดซื้อ จัดหา หรือแลกเปลี่ยนตามกฎหมายเอกชน หลังจากแบ่งแยกเสร็จสิ้นแล้ว ได้รายงานผลการแบ่งแยกให้ศาลปกครองสูงสุดพิจารณา ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งว่า คณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินตามคำพิพากษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2. กรณีที่จะมีการจัดตั้งบริษัทท่อก๊าซขึ้นใหม่นั้น ในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่กระทรวงการคลังรับโอนมาจาก ปตท.และได้จัดให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ใช้โดยมีค่าตอบแทน ตาม ที่กล่าวมา บริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่ก็จะมีสิทธิเพียงได้ใช้ทรัพย์สินที่เป็นท่อก๊าซของกระทรวงการคลังเท่านั้น จะไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้ไป และการเข้าใช้ทรัพย์สินของบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่ก็จะต้องทำความตกลงกับกระทรวงการคลังทั้งเรื่องเงื่อนไขและค่าตอบแทนใหม่ทั้งหมด การตั้งบริษัทท่อก๊าซเป็นเพียงการเปลี่ยนผู้บริหารท่อเท่านั้น ไม่มีผลเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของกระทรวงการคลังที่รับโอนมาจาก ปตท.แต่อย่างใด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้