บอมเบย์ แซฟไฟร์ บูรณะโรงกลั่นเลเวอร์สโตค มิลล์ พร้อมเปิดให้ทุกคนได้สัมผัสโรงกลั่นเหล้ายินอันทันสมัยและสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก

พฤหัส ๑๘ กันยายน ๒๐๑๔ ๑๖:๑๔
ชมบ้านของแบรนด์ดังระดับโลกก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

บอมเบย์ แซฟไฟร์ (BOMBAY SAPPHIRE) แบรนด์เหล้ายินพรีเมียมที่มีมูลค่าสูงสุดและเติบโตเร็วที่สุดในโลก[1] มีความภูมิใจที่จะเปิด เลเวอร์สโตค มิลล์ (Laverstoke Mill) ซึ่งเป็นทั้งโรงกลั่น สถานที่ท่องเที่ยว และบ้านเกิดของแบรนด์ ให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20140918/706183-a )

(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20140918/706183-b )

ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ข้างหน้า บอมเบย์ แซฟไฟร์ ได้จัดงานเฉลิมฉลองตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวาน โดยมีแขกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานกว่า 200 คน พร้อมเผยโฉมสถานที่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เป็นครั้งแรก และมีการเปิดตัวเรือนกระจกดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงการเพาะปลูกพืชที่ใช้เป็นส่วนผสมของบอมเบย์ แซฟไฟร์ทั้ง 10 ชนิด ได้แก่ ไม้สน มะนาว พืชตระกูลขิง ผักชี พริกหาง รากไม้ออร์ริส อัลมอนด์ อบเชยจีน ชะเอมเทศ และตังกุย

สถานที่ที่ปรับปรุงขึ้นใหม่นี้เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสกับเลเวอร์สโตค มิลล์ ในฐานะโรงกลั่นเหล้ายินอันทันสมัยและสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งผสานประวัติศาสตร์และความสวยงามของสถานที่ เข้ากับมาตรฐานสูงสุดในด้านการออกแบบ การใช้งานสถานที่ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

สถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นแหล่งผลิตกระดาษคุณภาพสูงสำหรับทำธนบัตรของอังกฤษมาเป็นระยะเวลากว่า 200 ปี และได้ขยายกิจการไปตามการเติบโตของราชอาณาจักรอังกฤษ ในช่วงรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย โรงงานแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก โดยได้เริ่มผลิตธนบัตรสำหรับดินแดนที่เป็นเมืองขึ้นใหม่ๆของอังกฤษ อาทิ อินเดีย เป็นต้น ประวัติศาสตร์ที่หยั่งรากลึกมาอย่างยาวนานนี้ ล้วนเชื่อมโยงอังกฤษ, เลเวอร์สโตค มิลล์, อินเดีย และสูตรบอมเบย์ แซฟไฟร์ ปีค.ศ. 1761 เข้าไว้ด้วยกัน

โรงงานเก่าแห่งนี้อยู่ห่างจากลอนดอนเพียง 60 ไมล์ มีเนื้อที่ 2 เฮกตาร์ และประกอบไปด้วยอาคาร 40 หลังซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันประณีตงดงามในยุคของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียและพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด การบูรณะสถานที่แห่งนี้ใช้ความระมัดระวังสูงสุด เพื่อที่จะเก็บรักษาต้นแบบของตัวอาคารเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็มีการปรับปรุงให้ร่วมสมัยสอดคล้องกับแบรนด์บอมเบย์ แซฟไฟร์ด้วย

เบน ฟาร์โลว์ ผู้อำนวยการฝ่าย Global Category ของบอมเบย์ แซฟไฟร์ กล่าวถึงโครงการปรับปรุงอาคารในครั้งนี้ว่า "เราให้ความสำคัญกับมรดกตกทอดเป็นอย่างมาก ดังนั้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เราจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่า เลเวอร์สโตค มิลล์ จะเป็นสถานที่ที่สะท้อนความเจริญรุ่งเรืองในอดีต โดยมีความสร้างสรรค์ ความสมบูรณ์แบบ และความงดงามเป็นหัวใจสำคัญ ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นประจักษ์พยานในงานเปิดบ้านของเลเวอร์สโตค มิลล์ ตลอดจนโชว์ผลงานการออกแบบอันน่าเหลือเชื่อและความงดงามของสถานที่ที่เราเรียกว่าบ้านได้อย่างภาคภูมิใจ เนื่องจากเป็นที่ที่เหมาะแก่การแสดงแบรนด์หรูอย่าง บอมเบย์ แซฟไฟร์ เป็นอย่างยิ่ง"

เลเวอร์สโตค มิลล์ ได้รับการยกย่องให้เป็นโรงกลั่นแห่งแรกและสิ่งปลูกสร้างที่บูรณะใหม่แห่งแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Building Research Establishment's Environmental Assessment Method (BREEAM) ระดับ “โดดเด่น” ในขั้นตอนของการออกแบบ[2]

นิค ฟอร์ดแฮม ผู้เชี่ยวชาญด้านการกลั่นเหล้าของบอมเบย์ แซฟไฟร์ ระบุว่า "นี่เป็นจุดเริ่มต้นของมรดกชิ้นใหม่ของเหล้ายินบอมเบย์ แซฟไฟร์ และถือเป็นครั้งแรกที่เราเปิดบ้านต้อนรับคนทั่วไปให้เข้ามาสัมผัสเรื่องราวของบอมเบย์ แซฟไฟร์ เรารู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งกับการรังสรรค์บอมเบย์ แซฟไฟร์แต่ละขวด ณ ที่นี้ และเราต้องการแบ่งปันความหลงใหลและศรัทธาอันแรงกล้ากับทุกคน"

ในงานเลี้ยงเมื่อคืนที่ผ่านมา ราจ นากรา แบรนด์แอมบาสเดอร์ของบอมเบย์ แซฟไฟร์ ได้ต้อนรับแขกผู้ร่วมงานด้วยความบันเทิงจากการแสดงดนตรีสดของ Britten Sinfonia วงแชมเบอร์ออร์เคสตราระดับแนวหน้าของอังกฤษ นอกจากนั้นยังมีการแสดงแสงสีร่วมสมัยอันน่าตื่นตาตื่นใจเพื่อเปิดตัวเรือนกระจกสำหรับปลูกพืช 2 หลัง โดยหลังหนึ่งเป็นเรือนกระจกปลูกพืชเขตร้อน และอีกหลังเป็นแบบควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งออกแบบโดยได้รับความร่วมมือจากโธมัส ฮีเธอร์วิค นักออกแบบชื่อดังจากลอนดอน และทีมงานจากฮีเธอร์วิค สตูดิโอของเขา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเติมเต็มความสวยงามตามธรรมชาติและประโยชน์ใช้สอยของสถานที่นี้

ในการเดินทางเพื่อค้นพบสิ่งใหม่ด้วยตนเอง ณ โรงกลั่นที่ทันสมัยแห่งนี้ แขกที่ได้รับเชิญจะต้องใช้แผนที่แบบอินเตอร์แอคทีฟในการสำรวจโรงกลั่น ตลอดจนเรียนรู้ศิลปะการปรุงแต่งเครื่องดื่มและมรดกตกทอดของบอมเบย์ แซฟไฟร์ บรรดาแขกผู้มีเกียรติได้เดินผ่านเรือนกระจกและห้องอบแห้งพืช ได้ชมหม้อกลั่นเหล้าโบราณ และได้ทราบประวัติของเลเวอร์สโตค มิลล์ในห้องเฮอริเทจรูม ปิดท้ายด้วยการดื่มด่ำกับค็อกเทลคลาสสิกของบอมเบย์ แซฟไฟร์ ณ มิลล์บาร์ ซึ่งถูกออกแบบมาอย่างสวยงามติดแม่น้ำริเวอร์เทสต์

บรรดาผู้ที่ทำงานในเลเวอร์สโตค มิลล์ ซึ่งร่วมบรรยายประสบการณ์อันหลากหลายที่ได้จากสถานที่แห่งนี้ ประกอบด้วย อิวาโน โทนัตติ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์, นิค ฟอร์ดแฮม ผู้เชี่ยวชาญด้านการกลั่นเหล้าประจำโรงกลั่นเลเวอร์สโตค มิลล์, วิลล์ บริกซ์ ผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ และโธมัส ฮีเธอร์วิค นักออกแบบชื่อดัง โดยบรรดาแขกได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการกลั่นเหล้ายินที่เรียกว่า Vapour Infusion ซึ่งเป็นกรรมวิธีการกลั่นที่ประณีต สามารถดึงรสชาติตามธรรมชาติของพืชพรรณต่างๆออกมาผลิตเป็นเหล้ายินที่เข้มข้นและนุ่มละมุนลิ้นได้

"ช่างน่าอัศจรรย์ที่ในที่สุดเราก็ได้เห็นจินตนาการกลายเป็นความจริง โครงการนี้ดึงดูดความสนใจของผมนับตั้งแต่ที่บอมเบย์ แซฟไฟร์ ติดต่อผมมาเมื่อปี 2010 ผมและทีมงานรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่แสนพิเศษในครั้งนี้” โธมัส ฮีเธอร์วิค กล่าว “กระบวนการกลั่นสุดพิเศษ ผสานกับมรดกตกทอดอันสมบูรณ์ของสถานที่แห่งนี้ ทำให้ผมหลงใหลและได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกอันทรงคุณค่าอย่างเช่นโครงการนี้"

โรงกลั่นบอมเบย์ แซฟไฟร์ ณ เลเวอร์สโตค มิลล์ ยังมีเอ็มไพร์รูม ซึ่งเป็นศูนย์สนับสนุนและฝึกอบรมแห่งใหม่สำหรับให้ความรู้แก่บาร์เทนเดอร์ชั้นนำระดับโลก และจะมีการจัดหลักสูตรให้ความรู้เรื่องแบรนด์สำหรับแขกที่เป็นสื่อมวลชนและผู้ค้าขายจากทั่วโลก เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าทึ่ง ตลอดจนได้รับโอกาสในการทำความเข้าใจและแบ่งปันค่านิยมของบอมย์เบย์ แซฟไฟร์

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงกลั่นบอมเบย์ แซฟไฟร์ ณ เลเวอร์สโตค มิลล์ และสำรองที่นั่งได้ที่ http://www.distillery.bombaysapphire.com

[1] ข้อมูลอ้างอิงจาก IWSR (International Wine and Spirit Research*) ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนธันวาคม 2013

[2] ประเมินตามมาตรฐาน 2008 BREEAM

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:

- เลเวอร์สโตค มิลล์ ได้รับการบันทึกว่าเป็นโรงงานข้าวโพดในหนังสือ Doomsday ปีค.ศ.1086 จากการสำรวจครั้งใหญ่โดยพระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต เพื่อประเมินดินแดนใหม่ทั้งหมดที่ยึดครองมาได้

- ในช่วงปีค.ศ.1719 ถึงทศวรรษ 1950 เลเวอร์สโตค มิลล์ ตกเป็นทรัพย์สินของครอบครัวพอร์ทัล (Portal)

- เลเวอร์สโตค มิลล์ ขยายกิจการไปพร้อมกับการเติบโตของราชอาณาจักรอังกฤษ โดยในช่วงรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย โรงงานแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก โดยเป็นแหล่งผลิตกระดาษคุณภาพสูงสำหรับทำธนบัตรของอังกฤษและดินแดนที่เป็นเมืองขึ้นใหม่ๆของอังกฤษ

- เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเข้ายึดครองดินแดนอันใกล้โพ้นอย่างอินเดีย โรงงานดังกล่าวก็ได้ผลิตกระดาษสำหรับทำธนบัตรอินเดียขึ้นด้วย ซึ่งประวัติศาสตร์ในช่วงนี้ได้เชื่อมโยงประเทศอังกฤษ, เลเวอร์สโตค มิลล์ และเหล้ายินเข้าไว้ด้วยกัน

- เหล้ายินของอังกฤษมีชื่อเสียงไปทั่วเมื่อครั้งที่มีการผลิตเหล้ายินและโทนิคในประเทศอินเดียซึ่งเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ โดยโทนิคมีสารควินินซึ่งเชื่อกันว่าใช้รักษาโรคมาลาเรียได้ ส่วนรสขมของโทนิคก็ถูกทำให้กลมกล่อมขึ้นด้วยการผสมกับเหล้ายิน

- เพื่อระลึกถึงช่วงเวลาที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของเหล้ายิน จึงมีการตั้งชื่อเหล้ายินของเราว่า BOMBAY(R) Original และ BOMBAY SAPPHIRE(R) อีกทั้งยังมีภาพสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย จักรพรรดินีแห่งอินเดีย บนฉลากด้วย

- เลเวอร์สโตค มิลล์ ได้รับผลตอบแทนมหาศาล และว่าจ้างสถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนั้น เพื่อสร้างห้องแสดงการผลิตกระดาษธนบัตรคุณภาพดี

- บอมเบย์ แซฟไฟร์ ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ถูกเข้าซื้อกิจการโดยตระกูลบาคาร์ดี กลยุทธ์การยกย่องมรดกของแบรนด์ ความเป็นของแท้ และคุณภาพอันเหนือระดับ ช่วยให้แบรนด์เติบโตได้อย่างรวดเร็วกว่าแบรนด์เหล้ายินระดับพรีเมียมของโลกรายอื่นๆ ส่งผลให้บอมเบย์ แซฟไฟร์ เป็นแบรนด์เหล้ายินระดับพรีเมียมที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

- บาคาร์ดีเป็นเจ้าของแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย และเป็นที่ยอมรับในด้านการรักษามรดกตกทอดตามแบบฉบับดั้งเดิมของแบรนด์ผ่านทางศูนย์รับรองลูกค้าหลายแห่ง

เกี่ยวกับ บอมเบย์ แซฟไฟร์(R)

บอมเบย์ แซฟไฟร์ เป็นแบรนด์เหล้ายินระดับพรีเมียมรายใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และเป็นแบรนด์เหล้ายินพรีเมียมอันดับหนึ่งของโลกโดยวัดจากมูลค่า เหล้ายินของบอมเบย์ แซฟไฟร์ ถูกปรุงแต่งด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของพืช 10 ชนิดที่คัดสรรมาอย่างดีจากทั่วโลกโดยใช้สูตรลับของปีค.ศ.1761 รสสัมผัสอันเป็นธรรมชาติของพืชนานาพันธุ์โดดเด่นขึ้นเมื่อผ่านกระบวนการกลั่นอย่างประณีตที่เรียกว่า Vapour Infusion ก่อให้เกิดรสชาติที่เย้ายวน นุ่มละมุน และลุ่มลึกตามแบบฉบับบอมเบย์ แซฟไฟร์

บอมเบย์ แซฟไฟร์ เป็นแบรนด์ในเครือของบาคาร์ดี ลิมิเต็ด (Bacardi Limited) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองแฮมิลตันบนเกาะเบอร์มิวดา ทั้งนี้ บาคาร์ดี ลิมิเต็ด หมายถึงกลุ่มบริษัทบาคาร์ดี ซึ่งรวมถึงบาคาร์ดี อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด

เว็บไซต์: http://www.bombaysapphire.com

เฟซบุ๊ก: http://www.facebook.com/BombaySapphire

ทวิตเตอร์: https://twitter.com/BombaySapphire

ดื่มด่ำบอมเบย์ แซฟไฟร์ อย่างมีสติ

บอมเบย์ แซฟไฟร์ เป็นเครื่องหมายการค้า

แหล่งข่าว: บอมเบย์ แซฟไฟร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๑ PRM ร่วมงาน OppDay มั่นใจธุรกิจปี 67 สดใส
๑๗:๓๘ Bitkub Chain ร่วม OpenGuild และ Polkadot เปิดพื้นที่รวมตัว Community รับ SEA Blockchain Week 2024
๑๗:๔๙ HOYO SOFT AND SAFE ผู้ผลิตคอกกั้นเด็กคุณภาพสูง มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย ได้รับการไว้วางใจจากประสบการณ์ลูกค้าโดยการบอกปากต่อปาก
๑๗:๓๗ แนวทางสร้างสมดุลระหว่าง อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และ คำมั่นสัญญาของ Generative AI
๑๖:๔๖ Maison Berger Paris เผยเครื่องหอมสำหรับบ้านรูปแบบใหม่ล่าสุด 'Mist Diffuser' ภายใต้คอลเลคชันยอดนิยมตลอดกาล Lolita
๑๖:๐๕ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (acute diarrhea)
๑๖:๓๙ JGAB 2024 จัดเต็มครั้งแรกในประเทศไทยและอาเซียน กับกิจกรรมและโซนจัดแสดงเครื่องประดับสุดพิเศษ พร้อมต้อนรับนักธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลก เริ่ม 1 พ.ค. 67
๑๖:๒๘ สอศ. จับมือแอร์มิตซูบิชิ ดิวตี้ รับมอบเครื่องปรับอากาศในการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาด้านเครื่องปรับอากาศ
๑๖:๓๘ DKSH ประเทศไทย คว้า 8 รางวัลอันทรงเกียรติ ในงาน Employee Experience Awards ประจำปี 2567
๑๖:๑๖ เด็กล้ำ! นักศึกษา SE SPU คว้ารางวัลรองชนะเลิศ Best Paper ผลงานนวัตกรรมเนื้อสัตว์แพลนต์เบส สุดยอดแห่งความยั่งยืน