คุณพลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เปิดเผยว่า “ช่อง 7 สี มีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมด้านกีฬามาโดยตลอด ทั้งการถ่ายทอดรายการกีฬาต่างๆ การนำเสนอข่าวกีฬา รวมไปถึงการจัดการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คน แชมป์กีฬา 7 สี แชมเปียน คัพ 2014 เป็นการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คน ระดับมัธยมศึกษา ที่จัดมาอย่างต่อเนื่อง 12 ปีติดต่อกัน โดยเมื่อปี 2556 สถานีฯ ได้ขยายการแข่งขันให้กว้างขึ้น โดยรับสมัครทีมจากโรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งปีที่แล้วมีโรงเรียนสมัครเข้าแข่งขันจำนวน 132 ทีม สำหรับในปีนี้มีโรงเรียนสนใจสมัครเข้าแข่งขันถึง 160 ทีม และที่น่าสนใจเป็นพิเศษและถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของสถานีฯ คือมีโรงเรียนจากต่างจังหวัดสมัครเข้าร่วมแข่งขันถึง 82 โรงเรียน เป็นสัดส่วนกว่า 50% เมื่อเทียบกับโรงเรียนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ย่อมแสดงให้เห็นว่าเยาวชนใส่ใจกีฬามากขึ้น และโรงเรียนต่างๆ ในต่างจังหวัดได้ให้การสนับสนุนกีฬาฟุตบอล 7 คนเพิ่มมากขึ้นด้วย นอกจากนั้น การแข่งขันรายการนี้ยังสร้างดาวรุ่งให้แก่วงการฟุตบอลอาชีพของเมืองไทยหลายคน อาทิ ปกเกล้า อนันต์ นูรูล ศรียานเก็ม และปกรณ์ เปรมภักดิ์ เป็นต้น นับเป็นความภาคภูมิใจของสถานีฯ ที่มีส่วนร่วมสร้างเยาวชนให้เดินตามความฝันได้สำเร็จ”
“การแข่งขันในรอบคัดเลือกจะทำการแข่งขันในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เริ่มวันที่ 2-5 ต.ค. วันที่ 11-12 ต.ค. และวันที่ 18-19 ต.ค. ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 แข่งขันระบบน็อกเอาท์ หรือ แพ้คัดออก โดยคัดจนเหลือ 8 ทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายรวมกับแชมป์เก่าทีมโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี และรองแชมป์เก่าทีมโรงเรียนราชวินิตบางแก้วเป็น 10 ทีม การแข่งขันรอบสุดท้ายจะแข่งขันระบบเหย้า-เยือน แบ่งเป็น 2 สายๆ ละ 5 ทีม ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2557 ส่วนรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะทำการแข่งขันในเดือน มกราคม”
ด้าน ดร.กิตติพงษ์ โพธิมูผู้อำนวยการสำนักนันทนาการ กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวว่า “ทางกรมพลศึกษายินดีให้การสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คน แชมป์กีฬา 7 สี แชมเปียน คัพ 2014 อย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นนโยบายหลักของทางกรมพลศึกษา ในการส่งเสริมให้เยาวชนได้มีกิจกรรมที่แสดงออกถึงความสามารถด้านกีฬา นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ซึ่งการแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันที่ได้รับความสนใจจากโรงเรียนต่างๆ เป็นอย่างมาก ในรอบคัดเลือก กรมพลศึกษาได้เตรียมความพร้อมสนามเฉลิมพระเกียรติคลอง 6 จำนวน 3 สนาม ไว้รองรับทีมโรงเรียนทั้ง 160 ทีมที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังจัดเตรียมสนามสำหรับรอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ อีกด้วย ส่วนจะเป็นสนามใดบ้างนั้น จะแจ้งให้ทราบภายหลัง”
นอกจากนี้ คุณพลากร สมสุวรรณ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “รางวัลทุนการศึกษา คือทีมชนะเลิศได้รับทุนการศึกษา 300,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ ทีมรองชนะเลิศได้รับทุนการศึกษา 150,000 บาท ส่วนทีมอันดับ 3 ทั้ง 2 ทีม รับทุนการศึกษาทีมละ 30,000 บาท ด้านผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม รับเงินรางวัล 20,000 บาท นักฟุตบอลยอดเยี่ยม และผู้ทำประตูสูงสุด ได้รับทุนการศึกษาคนละ 25,000 บาท ทีมมารยาทยอดเยี่ยม และทีมเชียร์ยอดเยี่ยม ได้รับทุนการศึกษาทีมละ 30,000 บาท ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งสายทั้ง 10 ทีม จะได้รับเงินบำรุงทีมๆ ละ 70,000 บาท กรณีทีมต่างจังหวัดจะได้เงินสนับสนุนพิเศษอีกโรงเรียนละ 25,000 บาท ส่วนการแข่งขันในรอบแบ่งสายทีมโรงเรียนที่ชนะจะได้รับทุนการศึกษา 10,000 บาท ทีมที่เสมอได้รับทุนการศึกษา 5,000 บาท และทีมที่แพ้ได้รับทุกการศึกษา 3,000 บาท รวมทุนการศึกษาและเงินรางวัลพิเศษทั้งสิ้น 1.93 ล้านบาท”