ในวันที่ 6 - 9 พฤศจิกายนนี้ นักออกแบบแฟชั่นแถวหน้ามากมาย จะร่วมกันจัดแฟชั่นโชว์อย่างอลังการในกรุงเทพ ภายใต้แนวคิด "ดิจิตัล แฟชั่น"
ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส ในฐานะพันธมิตรผู้ให้การสนับสนุนด้านลอจิสติกส์อย่างเป็นทางการ สำหรับงาน สยามพารากอน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล แฟชั่น วีค 2014 จะเป็นผู้รับผิดชอบบริการลอจิสติกส์โซลูชั่นที่ครบวงจรในการขนส่งสินค้าด้านแฟชั่นกว่า 200 กิโลกรัมจากสิงคโปร์และอิตาลี มาขึ้นเวทีที่เมืองไทย ในงานแฟชั่น วีค ที่จัดติดต่อกัน 4 วัน ที่รวมนักออกแบบแฟชั่นจากต่างประเทศ 5 คน และจากประเทศไทยอีก 9 คน ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากสื่อต่าง ๆ นับเป็นการตอกย้ำบทบาทสำคัญในการทำงานเบื้องหลังวงการแฟชั่น ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนด้านลอจิสติกส์ที่ครอบคลุมทั้งก่อน ระหว่าง และหลังงานแฟชั่นในครั้งนี้
ยาสมิน อลาดาด คาน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ กล่าวว่า "ดีเอชแอลมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้สนับสนุนงานแฟชั่นด้วยการให้บริการลอจิสติกส์ให้กับงานแฟชั่นวีคอีกครั้ง โดยดีเอชแอลเริ่มสนับสนุนงานแฟชั่นวีคครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา (ไมอามี แอลเอ และนิวยอร์ก) ซึ่งเราก็สานต่อความสำเร็จทางด้านธุรกิจในเมืองต่าง ๆ เหล่านั้นด้วยดี และเราก็ต้องการเห็นสิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย โดยพร้อมให้การสนับสนุนวงการแฟชั่นของเมืองไทยที่มีความเป็นสากลและเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นมาก"
ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส ประเทศไทยและภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า"อุตสาหกรรมแฟชั่นถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและมีการตั้งเป้าไว้สูง ในแง่ของการควบคุมคุณภาพซึ่งนักออกแบบแฟชั่นส่วนใหญ่มักจะกังวล การขนส่งสินค้าแฟชั่นจึงต้องรวดเร็วทันความต้องการของตลาดและจัดส่งสินค้าในสภาพที่สมบูรณ์" และเสริมว่า "ในฐานะที่เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการลอจิสติกส์โซลูชั่นที่ครบวงจร เราได้นำบริการต่าง ๆ มาใช้ในการขนส่งสินค้าประเภทแฟชั่น นับตั้งแต่การติดตามข้อมูลด้วยเทคโนโลยี RFID การอำนวยความสะดวกด้านศุลกากร และการแนะนำเส้นทางการขนส่งพิเศษสำหรับสินค้าจำนวนมาก รวมถึงการขนส่งแบบเร่งด่วนในนาทีสุดท้าย ที่มักเกิดขึ้นสำหรับการขนส่งสินค้าประเภทนี้"
ภายในเวลาไม่กี่ปี ดีเอชแอลได้พัฒนาโซลูชั่นด้านลอจิสติกส์เพิ่มขึ้นมากมาย ที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าในวงการแฟชั่นและเครื่องแต่งกายโดยเฉพาะ ซึ่งมีตั้งแต่กลุ่มธุรกิจเสื้อผ้าขายปลีกขนาดใหญ่ และห้องเสื้อแฟชั่นชั้นนำที่มีมาตรฐานในการจัดส่งสินค้าค่อนข้างสูงและซับซ้อน ไปจนถึงร้านเสื้อผ้าเล็ก ๆ ที่ต้องการให้นำส่งสินค้าเป็นครั้งคราวไป ทั้งนี้ โซลูชั่นต่าง ๆ จึงได้รับการพัฒนาขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่เติบโตขึ้นของอุตสาหกรรมซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ การจัดการด้านซัพพลายเชนหรือห่วงโซ่อุปทาน การจัดเก็บของในคลังสินค้า การจัดการศูนย์กลางการแจกจ่ายสินค้า การบริการครบวงจรด้านอี-คอมเมิร์ซ และบริการส่งถึงบ้าน ไปจนถึงบริการเสริมมูลค่าเพิ่มอื่น ๆ เช่นการบรรจุหีบห่อตามสั่ง การตรวจสอบการเย็บ การควบคุมคุณภาพต่าง ๆ ที่รวมถึง การให้บริการเรื่องการซักและรีดอีกด้วย