นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพฝนตั้งแต่ในช่วงฤดูฝนปี 2557 เป็นต้นมา พบว่าทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงภาคตะวันตก ส่งผลให้ปริมาณน้ำต้นทุนที่นำมาใช้ในช่วงฤดูแล้งนี้อยู่ในเกณฑ์น้อย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เสนอในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ขอความร่วมมือจากเกษตรกรงดทำนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลอง นอกจากนี้ ยังมีอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย ที่ให้งดทำนาปรัง ได้แก่ ภาคเหนือ ในพื้นที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ ภาคกลาง ในพื้นที่ของเขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบไปด้วย พื้นที่ท้ายเขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำตะคอง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแซะ จ.นครราชสีมา ทั้งนี้ กรมชลประทานได้มีการวางแผนจัดสรรน้ำเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งของแต่ละพื้นที่ โดยเน้นการใช้น้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค ผลิตน้ำประปา รักษาระบบนิเวศน์ โดยไม่ขาดแคลน รวมทั้งเพื่อการใช้น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอต่อการใช้ในการดำรงชีพของประชาชนทั้งลุ่มน้ำด้วย
อนึ่ง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการจัดจ้างงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่งดทำนาปรังนั้น กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานได้ดำเนินการรับสมัครเกษตรกรในแต่ละโครงการชลประทาน เพื่อเข้ารับจ้างทำงานในส่วนของกรมชลประทาน ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 57 ที่ผ่านมา มียอดผู้สมัครรวมกว่า 16,765 คน ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ จะเริ่มทยอยดำเนินการอย่างเร่งด่วนในระยะต่อไป
นายนำชัย พรหมมีชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้บูรณาการทุกภาคส่วนให้มีส่วนรวมให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง โดยการส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกร อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร สนับสนุนด้านการปลูกพืชตระกูลถั่ว เพื่อบำรุงรักษาดิน กรมปศุสัตว์ สนับสนุนด้านการเลี้ยงพันธุ์ไก่พันธุ์เป็ด กรมประมง สนับสนุนด้านการเลี้ยงพันธุ์ปลา และกรมพัฒนาที่ดิน สนับสนุนด้านการปลูกพืชบำรุงดิน เป็นต้น ทั้งนี้ได้กำหนดขั้นตอนและแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรเรียบร้อยแล้ว และจะเริ่มนำร่องในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 นี้ ที่จังหวัดชัยนาท อยุธยา และสุพรรณบุรี