นางยุพา อินทราเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร ได้เปิดเผยว่า ประเด็นที่สำคัญในการพัฒนาสินค้าของกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน คือ การตอบโจทย์ความต้องการของตลาดหรือผู้บริโภค ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และ ภูมิปัญญาของแต่ละชุมชน ซึ่งจะทำให้สินค้ามีความเฉพาะโดดเด่น ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ในปี 2558 ที่จะถึงนี้กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและประเทศไทย จะเข้าสู่ความเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อันจะนำไปสู่การเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ อย่างเสรี และเงินทุนที่เสรีในกลุ่มประเทศอาเชียน ซึ่งเชื่อแน่ว่าจะมีผลกระทบต่อการผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป สินค้า OTOP ของผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ทั้งในด้านการแข่งขันจากสินค้าในลักษณะคล้ายคลึงกัน และในแง่ของตลาดที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ผลิตที่มีความพร้อมและมีการเตรียมการที่ดี
ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการพัฒนากลุ่มผู้ผลิตสินค้าอาหารและเครื่องดื่มมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรแก่กลุ่มแม่บ้านเกษตร จนถึงวิสาหกิจชุมชนในปัจจุบัน ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ.2548โดยการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ให้มีความเข้มแข็ง และพึ่งพาตนเองได้เป็นอันดับแรก และจึงพัฒนาเข้าสู่การแข่งขันในเชิงการค้าทั้งในด้าน การพัฒนากระบวนการผลิต คุณภาพและมาตรฐานสินค้า รวมทั้ง ส่งเสริมให้ก้าวไปสู่การประกอบกิจการ ในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรจะทำหน้าที่ เป็นผู้ประสานหน่วยงานที่มีความชำนาญเป็นการเฉพาะด้าน มาพัฒนาต่อเนื่อง
สำหรับการสัมมนา ปฏิบัติการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ในครั้งนี้เป็นการทำงานภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตรกับสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ ISMED มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมความคิดจากผู้มีส่วนเกี่ยวในการพัฒนา ซึ่งได้แก่ ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของกรมส่งเสริมการเกษตรและสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งสิ้น 80คน โดยผลลัพธ์จากการสัมมนา จะนำไปสู่การกระบวนการพัฒนาสินค้าอย่างสร้างสรรค์ สื่อถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่น อย่างร่วมสมัย สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ต่อไป