กระทรวงวิทย์ฯ หนุนการพัฒนานวัตกรรมเป็นวาระแห่งชาติ

พฤหัส ๑๕ มกราคม ๒๐๑๕ ๑๖:๑๒
กระทรวงวิทย์ฯ สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมผลักดันมาตรการเร่งด่วนเพื่อการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใน 3 ประเด็นหลักคือ เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านภาษีมาตรการภาษีสำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนวิจัยกระตุ้นนวัตกรรมผ่านตลาดภาครัฐ เชื่อมโยงแผนปฏิรูป วทน.ที่กระทรวงวิทย์ฯกำลังขับเคลื่อน

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ในส่วนของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้นำเสนอหลักการสำคัญ 3 ประการในการปฏิรูปคือ ระบบงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม (วทน.) ระบบบริหารจัดการด้าน วทน. และ การพัฒนานวัตกรรมอย่างเป็นเอกภาพในรูปแบบวาระแห่งชาติ เช่นการมีเป้าหมายหลักในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ทั้งนี้ โดยให้มีความสอดคล้องกับการกระตุ้นงบประมาณการลงทุนวิจัยและพัฒนาเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ การพัฒนากำลังคน และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน วทน. โดยภาครัฐส่งเสริมให้เกิดการลงทุนวิจัยโดยภาคเอกชนเป็นสำคัญ

ดร.พิเชฐ กล่าวว่า การจะกระตุ้นภาคเอกชนให้ลงทุนวิจัยและพัฒนาให้มากขึ้นนั้น จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มแรงจูงใจให้เกิดการลงทุน โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้กำหนด 3 มาตรการเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการได้ทันที คือ มาตรการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโลยี และนวัตกรรมเพื่อให้เกิดความคล่องตัวขึ้น โดยให้การรับรองบริษัทเอกชนแทนการรับรองรายโครงการ มาตรการหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา สำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบสังคมของภาคเอกชน ลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับความสามารถของเอสเอ็มอีชุมชนและสังคมผ่านงานวิจัย อีกทั้งยังช่วยทำให้บรรลุเป้าหมายในการเพิ่มค่าใช้จ่ายวิจัยและพัฒนาเป็น 1% ของ GDP และมาตรการสุดท้ายคือ สนับสนุนนวัตกรรมโดยผูกกับการสร้างตลาดภาครัฐ โดยเอื้อให้การจัดซื้อจัดจ้างในสินค้าและบริการ ใช้นวัตกรรมของไทยมากขึ้นโดยการแก้ไขระเบียบพัสดุ พ.ศ.2535 ของสำนักนายกรัฐมนตรี เช่น ควรมีการระบุให้สินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานภายในประเทศ สามารถจัดซื้อจัดจ้างสินค้าที่มีราคาเกิน 100,000 บาท ได้โดยตรงผ่านวิธีพิเศษ โดยให้ครอบคลุมถึงพัสดุหรือสินค้าที่มีการทำนวัตกรรมในประเทศที่มีสมรรถนะเชิงเทคนิคตรงตามการใช้งาน มีมาตรฐานเทียบเคียง มีความปลอดภัย และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานราชการ โดยทั้งหมดนี้เน้นให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกับนโยบายรัฐบาล รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

ดร.พิเชฐ กล่าวว่า มาตรการเร่งรัดดังกล่าวข้างต้น เป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิรูปที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กำลังขับเคลื่อนคือ ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทเอกชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอาหาร การยกระดับเทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรมของเอสเอ็มอี การให้บริการทางเทคโนโลยีภาคเอกชนอย่างทั่วถึง สะดวก และรวดเร็วทั้งการสอบเทียบห้องปฏิบัติการทดสอบและการรับรองสินค้า ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้สินค้าที่ผลิตโดยนวัตกรรมไทยมีมาตรฐานในระดับสากล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา