เตือนน้ำเค็มรุกพื้นที่เกษตร สศก. ระบุ ปากตะคลอง ฉะเชิงเทรา พบเกินกว่ามาตรฐาน

พุธ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๕ ๑๕:๓๕
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 16 เผย พบปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็มในพื้นที่ฉะเชิงเทรา ระบุ เจอความเค็ม 30.59 กรัม/ลิตร ณ ประตูระบายน้ำปากตะคลอง ที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยขณะนี้ทางจังหวัดได้สั่งการให้ปิดประตูระบายน้ำในคลองต่างๆ เพื่อป้องกันการรุกคืบของน้ำเค็มเข้าไปในพื้นที่การเกษตรแล้ว

นายบุญลาภ โสวัณณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 16 ฉะเชิงเทรา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูแล้งปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคมของทุกปี พื้นที่การเกษตรของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง โดยเฉพาะจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และนครนายก ที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำบางปะกง จะประสบปัญหาการหนุนของน้ำทะเลทำให้เกิดการรุกตัวของน้ำเค็มขึ้นสูง เกษตรกรต้องเตรียมปรับตัววางแผนการผลิตรองรับการหนุนของน้ำทะเล โดยจากสถานการณ์การรุกตัวของน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้งของทุกปี ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตทางด้านเกษตรกรรมของเกษตรกรในพื้นที่ชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของแม่น้ำบางปะกง ซึ่งในการรุกตัวของน้ำเค็มได้ไหลผ่านจังหวัดฉะเชิงเทราในอำเภอบางปะกง บ้านโพธิ์ เมืองฉะเชิงเทรา คลองเขื่อน บางน้ำเปรี้ยว รวมระยะทางมากกว่า 140 กิโลเมตร และกำลังจะเข้าสู่เขตจังหวัดปราจีนบุรีที่อำเภอบ้านสร้าง

จากข้อมูล ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 พบว่า ค่าความเค็มในเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรามีค่าความเค็มสูงสุดอยู่ที่ ประตูระบายน้ำปากตะคลอง ความเค็มประมาณ 30.59 กรัม/ลิตร และค่าความเค็มต่ำสุดอยู่ที่สะพานบางขนาก ความเค็มประมาณ 1.27 กรัม/ลิตร ซึ่งถือค่าความเค็มอยู่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่จะต้องมีความเค็มไม่เกินประมาณ 2.00 กรัม/ลิตร ที่เป็นมาตรฐานค่าความเค็มสำหรับการเกษตร เพราะหากถ้าความเค็มเกินกว่านี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของพืช

นายบุญลาภ กล่าวต่อไปว่า จากการรุกตัวของน้ำเค็มดังกล่าว พบว่าใกล้เคียงกับสถานการณ์ของปี 2544 และปี 2555 ที่เคยมีค่าความเค็มสูง ทำให้สำนักงานชลประทานในเขตต้นน้ำต้องเพิ่มการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำแหล่งต่างๆ มาช่วยผลักดันน้ำเค็ม ซึ่งทำให้สามารถชะลอการรุกตัวของน้ำเค็มได้ระดับหนึ่ง และทำให้เขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรียังมีค่าความเค็มไม่สูงนัก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการสั่งการให้ปิดประตูระบายน้ำในคลองต่างๆ เพื่อป้องกันการรุกคืบของน้ำเค็มเข้าไปในพื้นที่การเกษตรแล้ว

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรของทั้ง 2 จังหวัด ได้มีการประชุมและเฝ้าระวังพร้อมทั้งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรในพื้นที่รับทราบสถานการณ์ และเตรียมตัวรองรับผลกระทบที่จะตามมา ทั้งเกษตรกรผู้ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีการวางแผนป้องกัน ปรับเปลี่ยน และเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตที่จะได้รับผลกระทบจากการรุกตัวของน้ำเค็มดังกล่าว เพื่อเตรียมการและวางแผนการผลิตให้รองรับกับสถานการณ์การรุกคืบของน้ำเค็มในปัจจุบันเพิ่มเติม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?