WWF จัดกิจกรรม “เมืองนี้ฉันรัก” พา “สามเมืองยั่งยืน ต้นแบบของไทย” ไปไกลระดับโลก

พุธ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๕ ๑๗:๑๔
เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา, เทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น และเทศบาลตำบลมาบอำมฤต จ.ชุมพร คือ ตัวแทนของประเทศไทย ในบรรดา 44 เมือง จาก 16 ประเทศทั่วโลก ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้ายจากทั้งหมด 163 ประเทศ ในกิจกรรม “เมืองนี้ฉันรัก (We Love Cities)” ในโครงการ “ปลุกเมืองให้โลกเปลี่ยน” หรือ “Earth Hour City Challenge” ประจำปี 2015 ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์เมืองไปสู่เมืองยั่งยืน โดยเป็นเมืองที่มีมาตรการต่างๆ รวมถึงพันธสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ

กิจกรรม “เมืองนี้ฉันรัก (We Love Cities)” ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 โดย WWF หรือ กองทุนสัตว์ป่าโลก ได้เชิญชวนให้เมืองต่างๆ

รอบโลก เข้าร่วมในการสร้างความยั่งยืนและช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้พิจารณามาตรการต่าง ๆ รวมถึงพันธสัญญาของเมืองจากรายงานที่แต่ละเมืองจัดทำขึ้น เพื่อคัดเลือกเมืองต้นแบบของแต่ละประเทศสำหรับรางวัล “National Earth Hour Capital” ซึ่งจะมีการมอบรางวัลในวันที่ 9 เมษายน ที่จะถึงนี้ ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

โครงการ “ปลุกเมืองให้โลกเปลี่ยน” หรือ “Earth Hour City Challenge” มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ และการสนับสนุนของเมืองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศของโลก เพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียน นอกจากนี้ WWF ยังต้องการให้เมืองต่างๆ จุดประกายให้ประเทศนั้นๆ สามารถเจรจาต่อรองด้านสภาพภูมิอากาศได้ ในการประชุมที่จะจัดขึ้น ณ เมืองปารีส ในเดือนธันวาคมนี้

WWF เปิดโอกาสให้คนทั่วโลกสนับสนุนความพยายามของเมืองต่าง ๆ ที่มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการมีส่วนร่วมในกิจกรรม

“เมืองนี้ฉันรัก หรือ We Love Cities” สำหรับประเทศไทยนั้น เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา, เทศบาลนครขอนแก่น

จ.ขอนแก่น และเทศบาลตำบลมาบอำมฤต จ.ชุมพร คือ สามเมืองที่ได้รับการคัดเลือกในการแข่งขันครั้งนี้ โดยแต่ละเมืองมีวิธีการ

จัดการเมืองอย่างยั่งยืนที่แตกต่างกัน ผ่านการริเริ่มและการมีส่วนร่วมของเทศบาล ชุมชน โรงเรียน และภาคเอกชน อาทิ การผลิตกระแสไฟฟ้าจากมูลสัตว์ การฟื้นฟูป่าชายเลน การผลิตพลังงานชีวภาพจากน้ำมันที่เหลือใช้ ระบบการจัดการขยะและธนาคารขยะ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและโหวตให้เมืองเข้าชิงรางวัลระดับโลกได้ที่www.welovecities.org ตั้งแต่วันนี้จนถึง 16 มีนาคม และร่วมอัพโหลดรูปภาพของเมืองต่าง ๆ ในมุมที่ชื่นชอบผ่านทาง Instagramรวมทั้งเสนอแนวคิดที่จะสร้างเมืองให้น่าอยู่และยั่งยืนได้อีกด้วย

“หลายๆ เมืองกำลังมองหาวิธีการไปสู่การดูแลสภาพภูมิอากาศที่ดีขึ้น ขณะที่ในระดับประเทศอาจกล่าวถึงเพียงแนวทาง

การแก้ไขปัญหากว้างๆ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นได้ทุกวัน ตั้งแต่โคมไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์ไปจนถึงระบบการคมนาคมสีขาวของเมืองต่างๆ ในโลก ด้วยความร่วมมือของ WWF หลายๆ เมืองได้รับแรงบันดาลใจในการตั้งเป้าหมาย การรายงาน รวมทั้งการให้ตัวอย่างที่น่าสนใจที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่กับเมืองแต่รวมถึงชุมชนอีกด้วย” ดร.คาริน่า บอร์กสตอร์ม-แฮนสัน ผู้นำโครงการ Earth Hour City Challenge กล่าว

WWF ได้ดำเนินงานร่วมกับ ICLEI (Local Governments for Sustainability) ในการเชิญชวนให้เมืองต่างๆ เข้าร่วมในกิจกรรมการปลุกเมืองให้โลกเปลี่ยน และให้แต่ละเมืองจัดทำรายงานในมาตรฐานของ carbonn Climate Registry (cCR)

“แต่ละเมืองต่างกำลังมองหาหนทางในการจัดการปัญหาและการเพิ่มมาตรการเกี่ยวกับการดูแลสภาพภูมิอากาศ และหลากหลายมาตรการได้ถูกแสดงผ่านทาง carbonn Climate Registry ของ ICLEI” จีโน แวน บีกิน เลขาธิการ ICLEI กล่าว

เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ผู้ชนะของปีที่แล้ว ประสบผลสำเร็จในการใช้มาตรการลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาไปสู่เมืองคาร์บอนต่ำ หรือแม้เต่เมืองชิคาโก โคเปนเฮเกน โซล และสตอล์คโฮม ก็มีกลยุทธ์และแผนการปฏิบัติงานที่มีนวัตกรรมที่ก้าวหน้าและครอบคลุม

“เมืองต่าง ๆ เป็นเสมือนจุดเชื่อมโยงไปสู่การรักษาสภาพภูมิอากาศให้ปลอดภัยในอนาคต และเพื่อที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จนั้น เราทุกคนจำเป็นต้องเร่งมือในการสนับสนุนมาตรการจากผู้กำหนดนโยบาย ภาคธุรกิจและสถาบันการเงินที่เตรียมการในการผลักดันให้ยกเลิกการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และมุ่งสู่อนาคตแห่งพลังงานหมุนเวียน” ดร. คาริน่า บอร์กสตอร์ม-แฮนสัน กล่าว

ประเทศที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายทั้ง 16 ประเทศจากทั้งหมด 163 ประเทศ

โดย 44 เมือง ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์เมืองให้ไปสู่เมืองยั่งยืน ได้แก่

ประเทศไทย : เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา, เทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น, เทศบาลตำบลมาบอำมฤต จ.ชุมพร

ประเทศบราซิล: เบโลโอรีซอนชี, รีโอเดอจาเนโร, เซาเปาโล

ประเทศแคนาดา: เอ็ดมอนตัน, นอร์ทแวนคูเวอร์, แวนคูเวอร์

ประเทศโคลอมเบีย: บูคาร่ามังกา, มองเตเรีย, ซานเตียโกเดกาลี

ประเทศฟินแลนด์: เอสโป, ลาห์ตี, ตัมเปเร

ประเทศฝรั่งเศส: เบอซานซง, น็องต์, ปารีส

ประเทศอินเดีย: ปูเน่, ราชโกฎิ, ธาเน

ประเทศอินโดนีเซีย: บาลิก์ปาปัน, จาการ์ตา, เซมารัง

ประเทศมาเลเซีย: เปตาลิงจายา, ชาห์อลัม

ประเทศเม็กซิโก: พูอีบลา, เอร์โมซีโย, โตลูกา

ประเทศสิงคโปร์

ประเทศแอฟริกาใต้: โจฮันเนสเบิร์ก, เนลสัน แมนเดลา เบย์, ชวาเน่

ประเทศเกาหลีใต้: ชางวอน, โซล, วอนจู

ประเทศสเปน: อาโกรุญญา, กอร์โดบา

ประเทศสวีเดน: เอสกิลสตูนา, กอเทนเบิร์ก, เวสเตโรส

ประเทศอเมริกา: คลีฟแลนด์, เอวันส์ตัน, ซีแอตเทิล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๓๖ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัล Digital Transformation Initiative of the Year 2024 จากเวที Healthcare Asia Awards
๑๒:๐๐ กลับมาอีกครั้งกับงานช้อปอย่างมีสไตล์ รายได้เพื่อชุมชน ครั้งที่ 14 เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ชวนมาช้อป ชม ของดี ของเด็ดประจำจังหวัดปทุมธานี ระหว่าง 4 - 10
๑๒:๓๙ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมพลศึกษา จัดแข่งขันกีฬากระบี่กระบองระหว่างโรงเรียน กิจกรรมสร้างสรรค์เสริมทักษะเยาวชน ส่งเสริม SOFT POWER
๑๑:๑๕ TOA ย้ำแชมป์สีเบอร์หนึ่ง คว้า 2 รางวัลใหญ่ 'สุดยอดองค์กร และแบรนด์สีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นมากที่สุด' 13 ปีซ้อน Thailand's Most Admired Company Brand ปี
๑๑:๔๒ ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์
๑๑:๕๘ ศิษย์เก่าวิศวฯ SPU กว่า 5 ทศวรรษ ร่วมย้อนวันวานในงาน วิศวฯ คืนถิ่น SEAN HOMECOMING 2024
๑๑:๑๓ เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่น ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2567
๑๑:๔๕ YouTrip สาดความคุ้มต้อนรับสงกรานต์กับ 2 โปรพิเศษ 4.4 Travel Sale และ Japan Mega Cashback รับส่วนลดสุดคุ้มจากแบรนด์ท่องเที่ยวดัง และเงินคืนสูงสุด 2,000
๑๑:๕๒ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รามคำแหง เชิญเข้าร่วมงานสัมมนาวิชา อนาคตเศรษฐกิจไทย: ยืดหยุ่นและยั่งยืน
๑๑:๑๐ เจแอลแอล ประเทศไทย เผยเทรนด์ ESG ของปี 2567 และเป้าหมายสู่อุตสาหกรรมสีเขียวของวงการอสังหาฯ