มท.1 สั่งการ ปภ.ประสานจังหวัดแก้ไขปัญหาภัยแล้ง – ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 17 จังหวัด

พุธ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๕ ๑๔:๓๖
มท.1 สั่งการ ปภ. ประสาน 17 จังหวัด ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและวางมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งให้สอดคล้องกับระดับความรุนแรง เน้นวางแผนบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่จำกัดให้เป็นระบบ เกิดประโยชน์สูงสุด และเชื่อมโยงในทุกระดับ รวมถึงแจกจ่ายน้ำทั่วถึงครอบคลุมทุกพื้นที่ เน้นให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2557 – ปัจจุบัน มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 17 จังหวัด 54 อำเภอ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานจังหวัดปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและวางมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งให้สอดคล้องกับระดับความรุนแรงของสถานการณ์ภัยแล้งในแต่ละพื้นที่โดยวางแผนบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่จำกัดให้เป็นระบบ เกิดประโยชน์สูงสุด และเชื่อมโยงในทุกระดับ รวมถึงแจกจ่ายน้ำทั่วถึงครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ระยะนี้บางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง โดยตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2557 – ปัจจุบัน มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) แล้ว 17 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ สกลนคร ลพบุรี บุรีรัมย์ มหาสารคาม สุโขทัย นครสวรรค์ ขอนแก่น ชัยนาท พิษณุโลก จันทบุรี พิจิตร ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง และชลบุรี รวม 54 อำเภอ 316 ตำบล 3,208 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 4.28 ของจำนวนหมู่บ้านทั่วประเทศ ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยจัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานจังหวัดสำรวจปริมาณน้ำ จัดทำบัญชีแหล่งน้ำในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสนับสนุนการสูบน้ำดิบเข้าสู่ระบบประปาหมู่บ้านและถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน ให้ประชาชนได้ใช้อุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอและบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้งโดยจัดหาทำความสะอาด ซ่อมแซมภาชนะกักเก็บน้ำให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี สำรองน้ำไว้อุปโภคบริโภคและใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนเกษตรกรควรเลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อยแทนการทำนาปรัง เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง

0-2243-0674

0-2243-2200

www.disaster.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา