เหล่าเซเลบสาวไลฟ์สไตล์ติดจอนาน 7.2 ชม. เผยวิธีดูแลดวงตา

พุธ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๕ ๑๔:๑๙
“สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น” เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างที่ทำให้เราได้เห็นโลกกว้าง และอินเตอร์เน็ตช่วยให้โลกทั้งใบอยู่ใกล้กันแค่ปลายนิ้ว โดยผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือ แท็บเล็ทต่างๆ ทำให้เราใช้เวลาอยู่หน้าจอเฉลี่ยสูงถึง 7.2 ชั่วโมงต่อวันหรือมากถึง 1 ใน 3 ของเวลาในแต่ละวัน ดังนั้นแบรนด์วีต้าเบอร์รี่ จึงเปิดแคมเปญใหม่ “ติดจอ 7.2 ชั่วโมง...ดื่มวีต้าเบอร์รี่เลย” ปลุกกระแสตื่นตัวรักสุขภาพดวงตาในสังคมไทย นำโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ แบรนด์แอมบาสเดอร์ขวัญใจคนไทย เพื่อให้คนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลดวงตาคู่สวย โดยได้รับเกียรติจาก ป้อ-ปุญญพัฒน์ ถนอมกุล, บัว-บัวบูชา ปุณณนันท์, มะปราง-ร.ท.หญิงกิตติวิชญา วัชโรทัย มาร่วมงาน ณ ลานเอเทรี่ยม 2 ห้างสรรพสินค้าสยามเซ็นเตอร์ เมื่อเร็วๆนี้

นายบุญเลิศ สุขเสรีทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทุกวันนี้เราอยู่ในสังคม “ก้มหน้า” พวกเราใช้ gadget ต่างๆ ค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ตื่นไปจนถึงตอนนอน ทั้งการทำงาน การติดต่อสื่อสารต่างๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันมีประโยชน์และมันก็จำเป็นมากๆ กับชีวิตเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ที่สำคัญคือมันอยู่ที่พฤติกรรมของเราเองมากกว่า ซึ่งในรายงานผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตประเทศไทย ปี 2557 โดยส่วนงานดัชนีและสำรวจ สำนักยุทธศาสตร์ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พบว่า ค่าเฉลี่ยของการใช้อินเตอร์เน็ตของคนไทยต่อสัปดาห์เพิ่มขึ้นเป็น 50.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือนับเป็นเวลาโดยเฉลี่ยสูงถึง 7.2 ชั่วโมงต่อวัน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2556 ถึง 56%

ซึ่งพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่เมื่อกำลังจดจ่อหรือมีสมาธิกับงานที่ทำหรือเนื้อหาที่กำลังดู มักจะเกร็งตา จดจ้องหน้าจอจนลืมเปลี่ยนอิริยาบถและกระพริบตาน้อยลง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้ภาวะคอมพิวเตอร์ วิชั่น ซินโดรม (Computer Vision Syndrome: CVS) ซึ่งอาการที่เจอบ่อยก็คือ ตาล้า ตาพร่า ตาเบลอ แสบตา เป็นต้นซึ่งพบบ่อยในกลุ่มนักศึกษา และกลุ่มคนทำงานในช่วงอายุ 15-34 ปี ดังนั้นวีต้าเบอร์รี่จึงพยายามสร้างพฤติกรรมที่ดีในการใช้สายตา ควบคู่กับการปกป้องดูแลดวงตาให้กับผู้บริโภคด้วยการดื่มวีต้าเบอร์รี่ทุกเช้า

ภายในงานสาวๆ ได้เผยพฤติกรรมเสี่ยงในการทำร้ายดวงตา พร้อมแนะวิธีถนอมสายตาด้วยเริ่มจาก ป้อ-ปุญญพัฒน์ ถนอมกุล เซเลบสาวสวยมากความสามารถ สำหรับป้อแล้วอาจจะใช้เวลาอยู่หน้าจอมากกว่า 7.2 ชั่วโมงต่อวันด้วยซ้ำไป เพราะตื่นขึ้นมาอย่างแรกที่เราหยิบก็คือโทรศัพท์ ดูว่าเพื่อนๆ คุยอะไรกันบ้างเช้านี้ มีนัดงานที่ไหน อัพเดทตารางงานในแต่ละวัน แล้วตอนนี้ป้อก็ถ่ายละครอยู่ ซึ่งเป็นซีนกลางแจ้ง ก็ต้องเจอทั้งแสงแดด และแสงไฟพร้อมๆ กัน ถ่ายเสร็จก็กลับมาเล่นโทรศัพท์ จนกระทั่งนอนถึงได้วางโทรศัพท์ แน่นอนว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีเลย เราก็ต้องมีวิธีถนอมสายตาของเราด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ พร้อมกับบำรุงด้วยวิตามิน ระหว่างวันก็งีบพักสายตาสัก 10-20 นาที ถ้าตาล้ามากๆ พักกองไม่ได้ ก็จะใช้น้ำตาเทียมช่วย และที่สำคัญเวลาเล่นโทรศัพท์เราก็จะใช้วิธีการลดแสงไม่ให้มันสว่างจ้ามาก ดวงตาของเราจะได้ไม่ทำงานหนักเกินไปด้วย

มะปราง-ร.ท.หญิงกิตติวิชญา วัชโรทัย ไฮโซสาวตาสวย-- ทุกวันนี้โทรศัพท์ หรือสมาร์ทโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว แน่นอนว่ามันมีประโยชน์ที่ช่วยให้เราหาข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น คุยกับเพื่อนได้สะดวกขึ้น แต่ในประโยชน์เหล่านั้นก็ส่งผลเสียต่อดวงตาของเรา ปรางเองก็เป็นคนหนึ่งที่เวลาทำงานอยู่หน้าจอคอม ก็ไม่วายที่จะเล่นโทรศัพท์ไปด้วย มองสลับไปมาจนงงไปหมด ซึ่งเราก็จะรู้สึกได้ว่าตามันล้า แสบตา ตาพร่ามัว เราก็อยากให้ดวงตาคู่สวยๆ ของเราอยู่กับเราไปนานๆ ก็เลยต้องบำรุงบ้าง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กินเป็นสดบ้าง น้ำปั่นบ้าง สลับกันไป ระหว่างที่นั่งทำงานก็มีกระพริบตาถี่ๆ บ่อยๆ บ้างก็ช่วยได้เยอะ ออกกำลังกายสูดอากาศสดชื่น มองต้นไม้ แม่น้ำ ก็ช่วยให้สุขภาพตาดีขึ้นได้

บัว-บัวบูชา ปุณณนันท์ สาวหน้าหวานมีเสน่ห์ เวลาเดียวที่เราจะไม่ได้อยู่หน้าจอก็คือตอนนอนหลับ ด้วยอาชีพของบัวที่เป็นผู้ประกาศข่าว ตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องเช็คข่าวตรวจข่าวผ่านโทรศัพท์มือถือ ไปถึงสถานีก็ต้องพิมพ์บทข่าวเองก็ต้องจ้องคอมพิวเตอร์ นอกจากนั้นก็ต้องหันไปมองจอมอนิเตอร์ข่าวด้วย ถึงเวลาทำงานก็ต้องไปเจอกับแสงไฟสตูดิโอ เพ่งมองกล้องสลับไปมา ซึ่งตาจะต้องสัมผัสกับหน้าจอและแสงไฟอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตาเราล้ามาก บัวก็จะใช้วิธีกระพริบตาถี่ๆ หรือถูมือให้อุ่นแล้วมาประคบที่ตา ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะอยู่หน้าจอ ก็ต้องบำรุงสายตาของเราให้ดี เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา เช่น ผักบุ้ง ฟักทอง รวมไปถึงผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ด้วย แม้ว่าจะไม่เห็นผลในทันที แต่ถ้าเราทำทุกวัน บำรุงไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นผลในระยะยาว ชีวิตของเราไม่ได้อยู่ที่หน้าจออย่างเดียว เพราะฉะนั้นเงยหน้ามาคุยกับคนรอบข้างบ้าง แล้วจะเห็นอะไรดีๆ อีกมากมาย

สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

บริษัท คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์ จำกัด

คุณคนึงนิตย์ และคุณพิธิมา โทร. 02 718 3800

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4