พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีหญิงสาววัย ๑๙ ปี ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่ ๗ ขวบ โดยแม่แท้ๆรู้เห็นเป็นใจ จนมีลูกกับพ่อเลี้ยง ๒ คน กระทั่งสามารถหลบหนีออกมาได้ จากนั้น จึงออกไปทำงานก่อสร้างแต่กลับถูกเพื่อนร่วมงานข่มขืนกระทำชำเราซ้ำอีกจนตั้งท้องได้ ๔ เดือนเศษ ที่จังหวัดปทุมธานี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี (พมจ.ปทุมธานี) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจหญิงสาวดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และกรณีเด็กหญิง อายุ ๑๓ ปี ป่วยเป็นลมชักตั้งแต่อายุได้ ๖ เดือน สมองไม่สั่งงาน ตา ๒ ข้าง มองไม่เห็น ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดนครราชสีมา ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา(พมจ.นครราชสีมา) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมอบให้กับครอบครัวของเด็กดังกล่าว พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่อง การรักษาพยาบาลให้เด็กได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
“สำหรับกรณีเด็กชายวัย ๗ ขวบ ใช้เวลาว่างช่วงปิดภาคเรียนให้เกิดประโยชน์ เดินเร่ขายลูกตาลเชื่อม ช่วยยายวัย ๕๘ ปี ที่มีโรคประจำตัวหลายโรค ครอบครัวยากจน อาศัยอยู่ในเพิงพักชั่วคราวในที่สาธารณะ ที่จังหวัดพิษณุโลก ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก (พมจ.พิษณุโลก) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเด็กให้ได้รับการศึกษา ในระยะยาว รวมทั้งดูแลรักษาพยาบาลอาการป่วยอย่างต่อเนื่องของคุณยายต่อไป” ตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย