รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ทุกชนิด ซึ่งกระทรวงทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ขานรับนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติ และได้ผลักดันให้มีการออกกฎหมายพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ขึ้น ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา และจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีภารกิจในเรื่องการผลักดันยุทธศาสตร์ มาตรการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งบูรณาการสร้างการมีส่วนร่วมกับภาคีทุกภาคส่วนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการเพิ่มพื้นที่ทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อให้ทรัพยากรเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองและได้รับการจัดสรรอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องทรัพยากรป่าชายเลน รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับเขตอนุรักษ์และสงวนคุ้มครองพื้นที่ป่าชายเลนไว้ในกฎหมายฉบับใหม่นี้ด้วย เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์สภาพป่าชายเลนของไทยมีเหลืออยู่เพียง 1.52 ล้านไร่ ซึ่งเป็นผลมาจากการถูกบุกรุกทำการเกษตร เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อุตสาหกรรม และจากปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนให้กลับคืนมาโดยเร็ว
นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ในพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ได้กำหนดให้รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ มีอำนาจออกกฎกระทรวง เพื่อประโยชน์ในการสงวนและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน กำหนดให้พื้นที่ป่าชายเลนบริเวณหนึ่งบริเวณใดเป็นพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการคุ้มครอง อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้นำแนวคิดในการคุ้มครองพื้นที่ป่าชายเลนมาสานต่อ โดยกำหนดให้พื้นที่ป่าชายเลนในเขต อ.แกลง จ.ระยอง เป็นพื้นที่นำร่องในการเตรียมประกาศเป็นพื้นที่สงวนและอนุรักษ์ เนื่องจากชุมชนในพื้นที่มีความพร้อมและเข้มแข็ง ซึ่งการฟื้นฟูป่าชายเลนบริเวณนี้ ร้อยละ 80 เกิดจากการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ซึ่งได้กำหนดการแบ่งเขตพื้นที่ป่าชายเลน อ.แกลง จ.ระยอง เป็น 3 โซน คือ โซนป่าอนุรักษ์ โซนป่าชุมชน และโซนป่าเศรษฐกิจ โดยแนวทางที่กำหนดขึ้นนี้ ทช. จะนำเสนอต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อพิจารณาเป็นแนวทางการทำงานของกรมต่อไป และจะมีการขยายผลเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมในพื้นที่ป่าชายเลนของจังหวัดต่าง ๆ ที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลทั้ง 23 จังหวัดทั่วประเทศ
การจัดทำโซนนิ่งพื้นที่ป่าชายเลนครั้งนี้ได้ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมมาประกอบกับข้อมูลการสำรวจภาคสนามตามหลักวิชาการ จัดทำเป็นแถบสีแบ่งเขตให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณใดมีความอุดมสมบูรณ์ตามมาตรฐานวิชาการ และควรสงวนรักษาไว้เป็นพื้นที่สงวนและอนุรักษ์ พร้อมกันนี้ได้กำหนดให้มีโซนที่ให้ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์และโซนเศรษฐกิจบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ตั้งหมู่บ้านของชุมชน ส่วนการบริหารจัดการแบบองค์รวมจะใช้เครือข่ายในการกำหนดเขตพิทักษ์และให้ประชาชนร่วมกันดูแล เพื่อให้เกิดสมดุลของการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าชายเลนอย่างยั่งยืน
นายชลธิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่รอให้ พรบ. ทช. พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ ทช. ยังมีเป้าหมายที่จะดำเนินการยึดคืนพื้นที่ป่าชายเลนที่ถูกบุกรุกอีกจำนวน 800 กว่าไร่ ตามแผนปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า เพื่อนำมาฟิ้นฟูให้เป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ต่อไป และเดินหน้าคุ้มครองพื้นที่ป่าชายเลนที่มีอยู่ 1.52 ล้านไร่ ให้คงสภาพความสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคประชาชนต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง