นายอุดม ศรีมหาโชตะ ประธาน TTCU กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากสถานการณ์ในปี 2558 ที่ยังมีความไม่แน่นอน จากความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเมือง อุบัติภัยต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับมีการ เปลี่ยนแปลงต่างๆ ของสังคมโลก รวมถึงการรวมกลุ่มประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ที่เราจะต้อง เร่งขับเคลื่อน และเตรียมความ พร้อมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ให้มีขีดความสามารถในการสร้างการเติบโต โดยเฉพาะ SME ทางการท่องเที่ยว TTCU จึง กำหนดจัดทำโครงการสำคัญ 2 โครงการ ในปี 2558 ได้แก่
๑. โครงการ Digital Economy for Tourism หรือ Thailand Tourism Platform เพื่อช่วยเหลือ SMEsท่องเที่ยว โดยร่วมกับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA) เพื่อพัฒนาซอฟแวร์ให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวสามารถนำไปใช้พัฒนาการดำเนินงาน และสร้างเครือข่ายเป็นช่องทางการตลาดได้กว้างขวางประสบความสำเร็จมากขึ้น
๒. โครงการธนาคารภาคท่องเที่ยวแห่งแรกในประเทศไทย หรือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับสมาชิก โดยร่วมกับ ธนาคารออมสิน
พลเอก โสภณ เวคะวากยานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ กล่าวว่า พันธกิจของซิป้าคือการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศ ให้สอดคล้องกับแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคเศรษฐกิจหลักของประเทศ หนึ่งในนั้นคือภาคท่องเที่ยวที่สร้างรายได้หลักให้ประเทศในยามนี้ อีกทั้งเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านซอฟต์แวร์ ให้มีทักษะที่สูงและตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการท่องเที่ยว ซอฟต์แวร์ในภาคอุตสาหกรรม ซอฟต์แวร์โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ในประเทศใช้ซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจด้วยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทั้งด้านการตลาดและการพัฒนาซอฟต์แวร์บริการซอฟต์แวร์ระหว่างผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยกับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ต่างชาติ ซิป้าจึงให้การสนับสนุนโครงการของ TTCU อันจะสนับสนุนให้ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก (SMEs) ท่องเที่ยว พัฒนาสู่ระดับสากลและนำความสำเร็จพร้อมเงินตราเข้าประเทศต่อไป
คุณธนัช กรองกันภัย รองประธานและประธานฝ่ายสินเชื่อ TTCU กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เติบโตมากจาก 10 ปี ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 10 ล้าน มาปัจจุบันประมาณ 25 ล้านคน เมื่อปีที่ผ่านมาในขณะที่เติบโต ท่องเที่ยวเผชิญวิกฤตต่างๆ มากมายทำให้โดยกระทบมาตลอดเช่นกัน SMEs ภาคท่องเที่ยวโดนกระทบก่อนอันดับแรกเสมอ และขาดการดูแลต้องพึ่งตนเองโดยเฉพาะด้านการเงินของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ภาคท่องเที่ยว หันไปหาที่พึ่งธนาคารก็พบปัญหานานับประการ อาทิ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน, ระบบบริหารจัดการยังไม่เป็นระบบ, การจัดทำบัญชีต่าง ๆ, ปัญหา Credit Bureau เป็นต้น ทั้งๆ ที่เป็นผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาแต่ยังมี ศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปได้ TTCU จึงรวมกลุ่มกันเพื่อการนี้ เป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ก่อตั้งมาเพื่อการออมเงิน ในกลุ่ม SMEs ภาคท่องเที่ยว และผู้ที่เกี่ยวข้องท่องเที่ยว เพื่อช่วยเหลือดูแลกันเองตามกำลัง ในขณะเดียวกัน TTCU เป็นที่พึ่งด้านการเงิน จึงจัดทำโครงการธนาคารภาคท่องเที่ยวแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ภาคท่องเที่ยวมีที่พึ่งอย่างแท้จริง ทั้งโรงแรมขนาดเล็ก บริษัทนำเที่ยวรวมถึงพนักงานภาคท่องเที่ยวต่างๆ มาขอรับความช่วยเหลือด้านการเงินกับ TTCU ได้ทันที โดย TTCU ได้สินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำกว่าธนาคารทำให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อสมาชิก และ SMEs ท่องเที่ยวทั่วไป
คุณอภิรมย์ รัตนถา ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ภาค ๒ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารออมสิน มีนโยบายยกระดับ มาตรฐานคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามนโยบายรัฐบาล ธนาคารออมสินยินดี สนับสนุนกลุ่มชาวบ้าน สหกรณ์ ที่มีส่วนร่วมช่วยเหลือ และพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยการให้บริการสินเชื่อพัฒนาชนบท ไม่ว่าจะนำไปช่วยเหลือทางด้านการศึกษา สาธารณสุข อาชีพ และความเป็นอยู่ของชุมชนต่างๆ พัฒนาความเข้มแข็งให้กับองค์กร ชุมชน และเครือข่าย สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาในรูปแบบต่าง ๆ ส่งเสริมสนับสนุน เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่าง บุคคล หรือองค์กร ธนาคารออมสิน เห็นความสำคัญ SMEs ภาคท่องเที่ยว และเห็นการร่วมกลุ่มครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยให้การสนับสนุน การกู้เงิน วงเงินกู้ไม่เกิน 3,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ย ตามประกาศธนาคาร ระยะเวลาชำระเงินกู้ ไม่เกิน 5 ปีวัตถุประสงค์การขอกู้กรณีใดกรณี หนึ่งหรือหลายกรณี ดังนี้ปรับปรุงหรือขยายกิจกรรมที่ทำอยู่เดิม, ลงทุนใหม่ในกิจกรรมเพื่อการผลิตหรือการค้า, ลงทุนในการก่อสร้างหรือซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์และมีแผนการ จัดเก็บเงินผู้ได้รับประโยชน์เพื่อใช้คืนเงินกู้ และเป็นเงินทุน หมุนเวียนที่เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มหรือสมาชิก สำหรับคุณสมบัติผู้กู้ เป็นองค์กรชุมชน หรือองค์กรพัฒนาเอกชน หรือกลุ่ม ผู้ประกอบการ OTOP หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่เป็นสมาชิก สพช. และมีบัญชีเงินฝากเป็นบัญชีร่วมประเภทเผื่อเรียก ชื่อ บัญชี "กลุ่ม" กับสาขาที่ขอกู้เงิน สุดท้ายต้องมีเงินออม หรือเงินกองทุนของกลุ่มอยู่จำนวนหนึ่ง และธนาคารออมสินยังมีบริการทางการเงิน ให้กับสมาชิก TTCU อื่น ๆ ใน 50 สาขา ในเขตกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเงิน การทำธุรกรรม ต่าง ๆ เช่น Internet Banking เป็นต้น
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนท่องเที่ยวไทยเพื่อการพัฒนา จำกัด
คุณทัศนา สุวรรณกมล เลขานุการ โทร 02-764 5448 อีเมลล์: [email protected]
ข้อมูลเกี่ยวกับ TTCU : คุณฉัตรชัย มงคลวิเศษไกวัล และคุณสุวดี ปาจรียางกูร - ผู้ริเริ่มก่อตั้ง TTCU