นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมประชุมคณะมนตรีองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 3 (The 3rd Meeting of ASEAN Plus Three Rice Reserve : APTERR Council) ในระหว่างวันที่ 21-22 เมษายน 2558 ณ กรุงบันดา เสรี เบกาวัน ประเทศบรูไนดารุสซาลาม เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานในปี 2557 และพิจารณาแผนการปฏิบัติงานในปี 2558 ของสำนักเลขานุการ APTERR โดยมีประเทศสมาชิกจากประเทศอาเซียน ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนิเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย และประเทศบวกสาม ได้แก่ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น รวมทั้งหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องคือ คณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งอาเซียน (ASEAN Food Security Reserve Board: AFSRB)และสำนักเลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat)เข้าร่วมประชุม
สำหรับที่ผ่านมาไทยให้ความสำคัญในการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกที่ประสบภัยพิบัติโดยในปี 2556 ไทยมีการบริจาคข้าวมากกว่า 880 ตัน ให้แก่ ลาว อินโดนิเซีย และฟิลิปปินส์ และส่งมอบข้าวที่บริจาคโดย จีน ไทย มาเลเซีย และญี่ปุ่นอีกประมาณ 6,730 ตัน ให้แก่ผู้ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์ ในปี 2556-2557 ซึ่งแสดงถึงความมั่นคงด้านอาหารในยามฉุกเฉินของภูมิภาคนี้
ด้านแผนปฏิบัติงานปี 2558 นี้ APTERR ให้ความสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1)การสนับสนุนการดำเนินโครงการ Food Emergency Monitoring Information (FEMI) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจในการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกที่ประสบภัยได้ทันท่วงที ซึ่งโครงการนี้ จะช่วยในการประเมิน วิเคราะห์ สถานการณ์ด้านความมั่นคงอาหารของประเทศสมาชิกทั้ง 13 ประเทศ รวมถึงการจัดทำระบบเตือนภัยด้านความมั่นคงอาหาร และการปรับปรุงการรายงานระดับความมั่นคงอาหารในทุกไตรมาส และ 2) การดำเนินงานภายใต้โปรแกรม Tier 3 คือการบริจาคข้าวให้แก่ประเทศสมาชิกได้อย่างรวดเร็วและทันทีเมื่อเกิดภัยพิบัติ ทั้งนี้ ประเทศไทยยืนยันและยินดีให้การสนับสนุนแผนปฏิบัติงานประจำปี 2558 ของ APTERR อย่างเต็มประสิทธิภาพ เลขาธิการ สศก.กล่าวในที่สุด