โดยเจ้าของแชมป์โลกแผนธุรกิจจาก MIM ในปีนี้ ชื่อว่าทีม ECOGENT ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน ได้แก่ นายธนภูมิ ศรีนวกุล, นางสาวจิตรานุช ชินสุวรรณ, นางสาววรัญพร จันทรธาดา, นางสาวพลอย ภัตติชาติ และ นายธิติ กอเจริญพาณิชย์ ที่ได้ร่วมกันนำเสนอแผนธุรกิจสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ประสานเนื้อไม้ที่ปราศจากสารฟอร์มัลดิไฮด์ ซึ่งนำไปสู่การพลิกโฉมอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์จากไม้ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนสามารถพิชิตใจกรรมการและคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้สำเร็จ
นายธนภูมิ ศรีนวกุล เล่าว่า ทีมใช้เวลากว่า 8 เดือนในการคิดแผนธุรกิจนี้ขึ้นมา โดยทุกคนช่วยกันทำงานเป็นทีมเวิร์ก ระดมสมองและความสามารถในการประยุกต์ความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนมา ทั้งกระบวนการคิด การหาข้อมูล ศึกษาตลาด เจาะกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์คู่แข่ง วางแผนการเงิน ประเมินผลตอบแทน รวมทั้งวางกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ ซึ่งต้องครอบคลุม ชัดเจนและเป็นจริงมากที่สุด ถึงจะโน้มน้าวคณะกรรมการให้เชื่อในแผนธุรกิจที่เรานำเสนอว่าจะมีโอกาสทางการตลาดและยอมจ่ายเม็ดเงินลงทุนกับเรา
นางสาววรัญพร จันทรธาดา เล่าว่า ขั้นตอนที่ยากที่สุดคือการหาสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มความต้องการในตลาด สำหรับเหตุผลที่ทีมสนใจธุรกิจผลิตภัณฑ์ประสานเนื้อไม้ที่ปราศจากสาร ฟอร์มัลดิไฮด์ หรืออธิบายง่ายๆ ว่าเป็นกาวขึ้นรูปไม้อัดที่ปราศจากสารฟอร์มัลดิไฮด์ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง เพราะเล็งเห็นว่าธุรกิจไม้อัดเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดทั่วโลกสูงถึง 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในต่างประเทศมีการออกกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อมะเร็ง ทำให้สินค้าของเรายิ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น
ทางด้าน นางสาวจิตรานุช ชินสุวรรณ เล่าถึงบรรยากาศการแข่งขันว่า ในปีนี้มี 16 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จากทั้งหมด 60 ทีม โดยใช้เวลาถึง 3 วันในการนำเสนอแผนธุรกิจต่อหน้าคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยนักธุรกิจ และนักลงทุนจากบริษัทชั้นนำของโลก โดยมีช่วงการนำเสนอแผนและช่วงถาม – ตอบซึ่งต้องชัดเจนและตรงประเด็นมากที่สุด ทำให้ก่อนที่จะมาแข่งขัน ทางคณะอาจารย์ที่ MIM ต้องฝึกฝนพวกเรามาเป็นอย่างดี เพื่อให้เรามีวิธีคิด มีมุมมองต่อปัญหาอย่างรอบด้าน มีความมั่นใจและนำเสนอแผนงานได้อย่างมืออาชีพจริงๆ
นายธิติ กอเจริญพาณิชย์ พูดถึงความสำเร็จของทีมที่เกิดจากการทำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์ก ว่า ทุกคนมีความรับผิดชอบในหน้าที่และมีส่วนร่วมในทุกกระบวนการทำงาน ทำให้รู้ข้อมูลและเข้าใจสินค้าเป็นอย่างดี สามารถช่วยกันนำเสนอแผน แก้ปัญหาเฉพาะหน้า และตอบคำถามของคณะกรรมการได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งพวกเราก็ทำออกมาได้ดี ต้องขอบคุณอาจารย์ที่บ่มเพาะความคิดให้พวกเรารู้จักวางแผนและทำงานอย่างเป็นระบบ รวมถึงให้โอกาสพวกเราก้าวมายืนตรงจุดนี้
นางสาวพลอย ภัตติชาติ กล่าวทิ้งท้ายถึงประสบการณ์ที่ได้จากการแข่งขัน NVC 2015 ว่า รู้สึกดีใจและภูมิใจกับความสำเร็จในครั้งนี้ เพราะไม่เพียงรางวัลที่ได้รับเท่านั้น แต่ยังหมายถึงโอกาสในการพบปะกับนักลงทุนต่างประเทศ ได้เรียนรู้ธุรกิจจากการลงสนามทำงานจริง ทำให้มองเห็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจของตัวเอง และรู้ว่าจะต้องวางแผนธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
ความสำเร็จที่ได้รับจากเวที NVC 2015 นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและเป็นใบเบิกทางให้นักศึกษาไทยได้เติบโตและเตรียมพร้อมที่จะก้าวสู่โลกธุรกิจอย่างเต็มตัว