กระทรวงไอซีที รุกปรับโครงสร้างองค์กรรองรับภารกิจระดับชาติ เปลี่ยนผ่านเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่ Digital Economy

ศุกร์ ๑๙ มิถุนายน ๒๐๑๕ ๑๓:๐๑
นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงฯ และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด ในวันที่ 17 มิถุนายน 2558 ว่า ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าเรื่องโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการเพื่อขับเคลื่อนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างข้อกำหนดการจ้างและขอบเขตของงาน (TOR) ในการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาออกแบบปรับปรุงโครงสร้างองค์กรและการจัดกรอบอัตรากำลัง เพื่อให้กระทรวงฯ มีโครงสร้างใหม่ที่เหมาะสม มีอัตรากำลังและคุณสมบัติสำหรับตำแหน่งต่างๆ ที่อดคล้องกับภารกิจหลักที่กำหนดไว้ในกฎหมายเกี่ยวกับดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

สำหรับความคืบหน้าคณะทำงาน 5 คณะ ภายใต้คณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ประกอบด้วย 1. คณะทำงานบรอดแบนด์แห่งชาติ (National Broadband) ได้มีการเข้าพบผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อขอความเห็นต่อหลักการ NetCo และ TowerCo โดยหน่วยงานที่เข้าพบต่างเห็นชอบในหลักการและได้เสนอแนะด้านการบริหารจัดการเพิ่มเติม รวมทั้งจัดทำร่าง TOR ในการจัดจ้างที่ปรึกษาออกแบบสถาปัตยกรรมโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ

2. คณะทำงานด้านการส่งเสริมการค้าผ่านสื่อดิจิทัล (Digital Commerce) การส่งเสริมธุรกิจเกิดใหม่ดิจิทัล (Digital Entrepreneur) และการส่งเสริมเนื้อหาดิจิทัล (Digital Content) ได้มีการพิจารณาแผนด้านการส่งเสริม ได้แก่ โครงการพัฒนาผู้ประกอบการเข้าสู่การค้าแบบดิจิทัล โครงการจัดเก็บฐานข้อมูลกลางของสินค้า โครงการยกระดับ

ขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ด้วย Cloud ERP ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลบันเทิงไทย และโครงการสร้างแบรนด์ไทยด้านดิจิทัลคอนเทนต์สู่ตลาดต่างประเทศ

3. คณะทำงานเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับโครงการนำร่อง(Showcase) เพื่อบูรณาการโครงการที่มีความเกี่ยวข้องกันไม่เกิดความซ้ำซ้อนและให้เกิดประโยชน์สูงสุด 4. คณะทำงานศูนย์ข้อมูลในประเทศ (Data Center) ได้เห็นชอบร่างแผนการดำเนินงานศูนย์ข้อมูลภาครัฐ และร่างมาตรฐานศูนย์ข้อมูลสำหรับการให้บริการภาครัฐ และหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์แก่ภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยจะจัดทำประชาพิจารณ์ร่างมาตรฐานศูนย์ข้อมูลภาครัฐ และหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์แก่ภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในลำดับต่อไป

และ 5. คณะทำงานติดตามกฎหมายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล มีความคืบหน้าตามลำดับดังนี้ กลุ่มที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่ระหว่างการพิจารณา ได้แก่ พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูล

ส่วนบุคคล พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ และ พ.ร.ฎ.การจัดตั้งสำนักพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งล่าสุดในส่วนของ พ.ร.ฎ.การจัดตั้งสำนักพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ คณะกรรมการกฤษฎีกามีมติว่าไม่ต้องแก้ไขร่าง และให้ส่งกลับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทบทวน

กลุ่มที่ 2 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจเสร็จแล้ว ได้แก่ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สถานะล่าสุดคือ กระทรวงฯ ยืนยันร่างกลับไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2558 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ล่าสุดได้ตรวจร่างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างการส่งให้หน่วยงานยืนยัน กลุ่มที่ 3 เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ได้แก่ พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งผ่านการพิจารณาจาก ครม. เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558 และกลุ่ม 4 เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้แก่ พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งอยู่ระหว่างคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง

นายพรชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมดังกล่าว กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานเรื่องเครื่องมือตรวจวัดเครือข่ายสถานีฝนอัตโนมัติ จำนวน 930 สถานี สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุขัดข้อง ทำให้การแสดงผลข้อมูลบนหน้าเว็บเพจไม่ตรงกับ Database เนื่องจากมีการใช้งานมานาน จึงต้องเร่งปรับปรุงแก้ไข ซึ่งเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2558 กรมบัญชีกลางได้แจ้งให้ส่วนราชการเริ่มปฏิบัติการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเผยแพร่ TOR บนเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาเพื่อรับคำวิจารณ์

นอกจากนี้ ยังมีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานบูรณาการข้อมูลภาครัฐ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งจากการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2558 ที่ประชุมฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อการบูรณาการฐานข้อมูลภาครัฐในด้านต่างๆ จำนวน 5 คณะ ได้แก่ 1. คณะกรรมการขับเคลื่อนการบูรณาการฐานข้อมูลกลางภาครัฐ 2. คณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ 3. คณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ 4. คณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูลด้านความมั่นคง และ 5. คณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูลด้านทรัพยากรและบริหารโครงสร้างภาครัฐ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๑ ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน หวังผลักดันมวยปล้ำสเปนขึ้นแท่นลีกหลักในยุโรปและลาตินอเมริกา
๑๖:๓๙ โอกาสจองซื้อหุ้นกู้บริษัทชั้นนำ ช.การช่าง เสนอขายช่วงวันที่ 25 - 29 เมษายน 2567 ชูผลตอบแทน 3.40 - 4.10% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือ A- ติดต่อผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย
๑๖:๕๔ บางจากฯ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชนในทักษะแห่งอนาคต ผ่านโครงการ SI Sphere: Sustainable Intelligence-based Society Sphere โดย UN Global Compact Network
๑๕:๑๓ เปิดไลน์อัพ 10 ศิลปินหน้าใหม่มาแรงแห่งปีจาก Spotify RADAR Thailand 2024
๑๕:๐๘ อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้ากลยุทธ์ Star Commerce ยกทัพศิลปิน-ดารา เป็นเจ้าของแบรนด์ และดันยอดขายด้วย Affiliate Marketing ประเดิมส่งศิลปินตัวแม่ ใบเตย อาร์สยาม
๑๕:๒๐ กสิกรไทยผนึกกำลังเจพีมอร์แกน เปิดตัวโปรเจกต์คารินา ดึงศักยภาพบล็อกเชน ลดระยะเวลาธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
๑๕:๐๖ สเก็ตเชอร์ส จัดกิจกรรม SKECHERS PICKLEBALL WORKSHOP ส่งเสริมสุขภาพและขยายคอมมูนิตี้กีฬา Pickleball ในไทย
๑๕:๕๖ SHIELD จับมือแอสเซนด์ มันนี่ และ Money20/20 Asia จัดกิจกรรมระดมเงินบริจาคแก่มูลนิธิรามาธิบดี
๑๕:๔๓ 'ASW' เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ 4 คอนโดฯ ใหม่ ไตรมาส 2 ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ตมูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท
๑๕:๔๑ โก โฮลเซลล์ สนับสนุนเกษตรกรไทย ปูพรมจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล สดจากสวนส่งตรงถึงมือคุณ