พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีภารกิจเกี่ยวกับการพัฒนาการจัดสวัสดิการสังคม การพัฒนาสังคม และการสังคมสงเคราะห์ การคุ้มครอง ส่งเสริมสิทธิ และการให้บริการสวัสดิการสังคมแก่กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้กลุ่มเป้าหมาย ประชาชน และภาคีเครือข่าย สามารถใช้ข้อมูลข่าวสาร บริการ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการมีส่วนร่วมในการพัฒนางานด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จึงได้จัดทำโครงการฯ นี้ขึ้น ซึ่งในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ นี้ เป็นเดือนรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ มีกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอยู่ในกระบวนการค้ามนุษย์ คือ กลุ่มคนขอทาน ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต้องดูแลช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ โดยมีการ ขอความร่วมมือจากอาสมัครมัคทายกร่วมเป็นคนพันธุ์แชร์ ในการรณรงค์ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาการขอทาน ปรับเปลี่ยนค่านิยมการให้ทานถูกวิธี ลดวิถีการขอทาน โดยมีวัดที่เข้าร่วมในโครงการฯ ครั้งนี้ ได้แก่ วัดสวนแก้ว วัดชลประทานรังสฤษฎ์ วัดปัญญานันทาราม วัดบัวขวัญ วัดเชิงเลน วัดนาบุญวัดปรมัยยิกาวาส วัดมูลจินดาราม วัดเขียนเขต วัดหว่านบุญ วัดพรหมวงศาราม วัดไทร วัดหนองใหญ่ วัดแสวงวัดโพธิ์สพผลเจริญ วัดแสงสวรรค์ และวัดพระยาสุเรนทร์
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า การสร้างความรู้ ความเข้าใจนอกจากจะให้กับบุคลากรแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ยังตระหนักถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจให้เครือข่ายอาสาสมัคร ในการเป็นตัวแทนสื่อกลางเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหา โดยใช้กลยุทธ์การสื่อสารการประชาสัมพันธ์หลากหลายช่องทาง เพื่อสร้างพลังแห่งการสื่อสาร ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ในการขับเคลื่อนการนำนโยบายสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง
"กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มุ่งแก้ไขปัญหาขอทานแบบยั่งยืน เป็นรูปธรรม และส่งเสริมค่านิยม"การให้ทาน ถูกวิธี ลดวิถีการขอทาน" โดยรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเงินทุนเพื่อพัฒนาคนไร้ที่พึ่งและคนขอทาน ตามกล่องรับบริจาคที่วางไว้ณ ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล วัด และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ๑๑ แห่งทั่วประเทศ หรือบริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย เลขบัญชี ๐๒๑-๐-๑๗๔๙๙-๔ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาฟื้นฟูและเป็นทุนประกอบอาชีพแก่คนไร้ที่พึ่งและคนขอทาน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เกิดกำลังใจ สามารถดำรงตนและยืนหยัดอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรีต่อไป" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย