ล่าสุด ได้มีการเปิดตัวโครงการทูตความดีแห่งประเทศไทย 2558 ปี 4 ภายใต้แนวคิด Gen A (Generative Active) "รวมพลคนรุ่นใหม่หัวใจอาสา" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในโครงการ Active Citizen เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้ใช้ทักษะและศักยภาพของตัวเองสู่การเปลี่ยนแปลงสังคม โดยหวังให้เป็นเวทีปลุกพลังเยาวชนคิดบวกอย่างสร้างสรรค์ พร้อมกับ จุดประกายให้ทุกคนเกิดความกล้าที่จะลงมือปฏิบัติ และต่อยอดพัฒนาเป็นเครือข่ายอาสาทำดีสู่วงกว้าง
โครงการที่ว่านี้เป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรสร้างสรรค์สังคมทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะแม่งาน ร่วมกับ มูลนิธิธรรมดี และองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันแห่งประเทศไทย บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม เป็นต้น
รศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสร้างพลเมืองเพื่อประเทศไทยที่น่าอยู่ โดยมีพันธมิตรร่วมงานกว่า 15 องค์กร สถาบันการศึกษา 55 สถาบัน และมีเยาวชนเข้าร่วมสร้างสรรค์โครงการกว่า 5,000 คน ซึ่งมีโครงการอยู่ทั่วประเทศ และเป็นโครงการที่หลากหลาย ทั้งการพัฒนาสื่อสร้างสรรค์ การร่วมสร้างชุมชนด้วยแนวเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาผู้ประกอบการทางสังคมรุ่นใหม่ เป็นต้น ทั้งนี้ สสส. เชื่อว่าการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้นอกห้องเรียนจากประสบการณ์จริงนั้น เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่การเป็นสังคม Active Citizen ได้อย่างแท้จริง
ด้าน ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี กล่าวว่า จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา มีเยาวชนในโครงการกว่า 200 คนลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจส่งต่อความดีด้านงานจิตอาสาในพื้นที่ต่างๆ รวม 33 โครงการทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันโครงการเหล่านี้ยังได้ดำเนินการต่ออย่างต่อเนื่อง จากรุ่นสู่รุ่น สำหรับปีนี้มีเยาวชนให้ความสนใจเข้าร่วมสร้างสรรค์โครงการจิตอาสาเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงพลังของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนสังคมให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้โครงการ Gen A มุ่งหวังที่จะสร้างเด็กรุ่นใหม่ให้มีหัวใจอาสา (Active Heart) ใฝ่เรียนรู้ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง (Active Mind) และกล้าคิดกล้าลงมือทำเพื่อประโยชน์ของสังคม (Active Citizen) พร้อมจะเป็นพลังสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามแก่สังคมสืบไป
กิตติชัย ไกรก่อกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด หนึ่งในผู้สนับสนุนโครงการ กล่าวว่า พลังจิตอาสาของเยาวชนคนรุ่นใหม่เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ บริษัทมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนโครงการทูตความดีแห่งประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยความเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้จะสามารถสร้างค่านิยม เก่ง ดี มีจิตสาธารณะให้เกิดขึ้นได้ในสังคมไทย
ในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.เมื่อเร็วๆ นี้ มีตัวแทนเยาวชนจากหลายสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ พร้อมใจกันเดินทางมาแสดงพลังเยาวชนสายพันธุ์ใหม่ พร้อมกับนำเสนอโครงการจิตอาสาเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้อย่างน่าสนใจไม่แพ้กัน อาทิ
โครงการ สร้างฝัน…สู่ความสำเร็จ (The day of the dream) เยาวชนกลุ่มนักเต้น บีบอย หัวใจอาสา จากโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย โดยนายธนโชค ชาติแพงตา หรือน้องเกมส์ ตัวแทนกลุ่มเยาวชนนักเต้นบีบอย เล่าว่า ในอดีตเคยเกือบพลาดพลั้งไปยุ่งเกี่ยวกับวงโครจรของอบายมุข แต่ยังโชคดีที่มีกลุ่มพี่ๆ นักเต้นบีบอยเข้ามาสอน ในชุมชนจึงเกิดความสนใจและได้มีโอกาสฝึกเต้นบีบอยนับแต่นั้นมา หลังจากที่ได้เริ่มเต้นบีบอยก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเองจนในที่สุดก็เลิกความคิดที่จะเข้าไปพัวพันกับอบายมุขอย่างจริงจัง ทำให้เกิดแรงบันดาลใจอยากเข้าไปสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเยาวชนกลุ่มเสี่ยง โดยใช้ความสามารถที่ตัวเองมีอยู่ทำสิ่งดีๆ แก่สังคม
อีกโครงการหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กันได้แก่โครงการ นศท. อาสาพัฒนาชุมชน จากโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย เป็นโครงการที่เกิดจากกลุ่มนักศึกษาวิชาทหารได้เล็งเห็งถึงการสร้างโอกาสให้แก่เยาวชนที่สนใจการพัฒนาชุมชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียนที่ขาดแคลน ด้วยการสร้างแหล่งเรียนรู้อาเซียน ลานกิจกรรม รวมถึงปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อให้เยาวชนที่มีจิตอาสาได้สัมผัสประสบการณ์ตรงในการอุทิศตนทำความดีและเป็นต้นแบบแก่เยาวชนในชาติ
นอกจากนี้ ยังมีศิลปินนักแสดงที่เป็นเยาวชนหัวใจอาสาอย่างน้องฟลุท ชินพรรธน์ กิตติชัยวรางค์กูร มาร่วมแบ่งปันแง่คิดดีๆ จากประสบการณ์การจิตอาสา โดยน้องฟลุท ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า ในฐานะเยาวชนที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิง ถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่ต้องเป็นแบบอย่างที่ให้กับเยาวชนคนอื่นๆ โดยการส่งเสริมให้เยาวชนได้รู้จักบทบาท สิทธิ และหน้าที่ของเยาวชนไทยที่ดี เพราะเชื่อว่าพลังของเยาวชนหากได้ร่วมกันทำในสิ่งที่ดีๆ ร่วมกัน คิดดี ทำดี มีน้ำใจ ทำทุกอย่างด้วยใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ก็จะทำให้ประเทศไทยเป็นเมืองแห่งความสุข
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของต้นแบบโครงการจิตอาสาที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกเท่านั้น และในตอนนี้ทั้ง 28 ทีมต้องลงพื้นที่จริงเป็นเวลา 4 เดือนตั้งแต่เดือน ก.ค.- ต.ค. เพื่อปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่วางไว้ เป็นการสร้างมิติใหม่แห่งการส่งต่อความดีให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และจะมีการตัดสินสุดยอดโครงการจิตอาสาต้นแบบประจำปี 2558 ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งทีมที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนแต่ละภาค 4 ทีมจะได้นำเสนอโครงการต่อหน้าคณะกรรมการ โดยจะต้องเป็นโครงการที่สามารถทำได้จริง และที่สำคัญต้องสามารถขยายผลต่อยอดเป็นโครงการต้นแบบได้ ชิงรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนในการทำโครงการ และเป็นตัวแทนประเทศไทยในเวทีนานาชาติต่อไป
หลังจากนี้น้องๆ ทีมใดจะได้เป็นสุดยอดโครงการต้นแบบจิตอาสาเปลี่ยนประเทศประจำปี 2558 มาร่วมให้กำลังใจ ติดตามความเคลื่อนไหวและเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการก่อการดีนี้ได้ ทาง www.facebook.com/dodclub และสามารถติดตามข้อมูลกิจกรรมการขับเคลื่อนโครงการ Active Citizen ได้ที่ www.facebook.com/ThailandActiveCitizen