รัฐบาลขับเคลื่อน แผน ปภ.ชาติ 58 สู่การจัดการสาธารณภัยระดับสากล สร้างประเทศไทย “รู้รับ – ปรับตัว – ฟื้นเร็วทั่ว – อย่างยั่งยืน”

พฤหัส ๑๖ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๓:๔๖
รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขับเคลื่อนแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 สู่การจัดการสาธารณภัยระดับสากล โดยจัดสัมมนาเชิงวิชาการ "ก้าวใหม่ก้าวไกล ก้าวที่ปลอดภัย ก้าวไปกับแผน ปภ.ชาติ" ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2558 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นเวทีสำคัญให้ทุกภาคส่วนร่วมผลักดันยุทธศาสตร์การจัดการสาธารณภัยเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาประเทศในทุกระดับและขับเคลื่อนแผน ปภ.ชาติ 58 ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงสร้างประเทศไทยให้ "รู้รับ – ปรับตัว – ฟื้นเร็วทั่ว – อย่างยั่งยืน"

พลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยพิบัติของประเทศไทยมีแนวโน้มเกิดบ่อยครั้ง รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้ความสำคัญกับการจัดการสาธารณภัยของประเทศที่เป็นระบบและมีเอกภาพ โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ได้เห็นชอบแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 ที่คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) เสนอ ซึ่งแผนฯ ดังกล่าวสอดรับกับแนวคิดการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัย ในระดับสากล และกรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พ.ศ.2558 – 2573 ที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยประกาศเจตนารมณ์ในการร่วมขับเคลื่อนกรอบการดำเนินงานดังกล่าว โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนฯ และจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับการขับเคลื่อนในแผนปฏิบัติราชการประจำปี รวมถึงให้สำนักงบประมาณและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณสำหรับดำเนินการจัดการสาธารณภัยตามแผนฯ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนน้อมนำหลักการพัฒนาตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" มาเป็นกรอบในการขับเคลื่อนแผน ปภ. ชาติ 58 โดยให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัย ซึ่งจะนำไปสู่การรู้รับ – ปรับตัว และการจัดการภัยพิบัติอย่างยั่งยืน

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรองประธานกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) คนที่ 1 เปิดเผยว่า แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 ได้นำบทเรียนการจัดการ สาธารณภัยในอดีตมาพัฒนาแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัย และบริบททางสังคม ซึ่งสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทุกมิติ ภายใต้ยุทธศาสตร์การจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัย 4 ด้าน ได้แก่ 1) มุ่งเน้น ลดความเสี่ยงจากสาธารณภัย โดยให้ความสำคัญกับการป้องกัน การลดผลกระทบ การเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ การส่งเสริม ให้ทุกภาคส่วนร่วมลดความเสี่ยงจากสาธารณภัย พร้อมผนวกหลักการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยให้เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของรัฐ 2) การบูรณาการการจัดการในภาวะฉุกเฉิน ภายใต้องค์กรปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินที่มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับสาธารณภัยได้ทุกประเภทภัยและทุกระดับความรุนแรง ควบคู่กับการวางมาตรฐานในการเผชิญเหตุที่เป็นระบบและมีเอกภาพ 3) การเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน วางระบบสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ครอบคลุมทุกมิติ พร้อมทั้งพัฒนาระบบป้องกันภัย ให้ดีขึ้นและปลอดภัยกว่าเดิม และ 4) การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการสาธารณภัย โดยพัฒนาศักยภาพการจัดการสาธารณภัยของประเทศให้มีมาตรฐานตามหลักสากล เชื่อมโยงการประสานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านสาธารณภัย เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศแกนนำในการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการขับเคลื่อนแผน ปภ.ชาติ 58 ในระดับพื้นที่ พร้อมทั้งผลักดันให้การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นยุทธศาสตร์จังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวมถึงผนวกเป็นส่วนหนึ่งในแผนการพัฒนาจังหวัด เพื่อสร้างประเทศไทยให้เป็นเมืองปลอดภัยและน่าอยู่อย่างยั่งยืน

นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส กล่าวว่า แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 ถือเป็นแผนหลักในการจัดการสาธารณภัยของประเทศที่สอดคล้องกับแนวคิดการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยในระดับสากล และกรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พ.ศ.2558 – 2573 ซึ่งมีความเชื่อมโยงในแง่ของแนวคิดการขับเคลื่อนการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติอย่างยั่งยืน โดยการบูรณาการ ทุกภาคส่วนร่วมป้องกันและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพการเผชิญเหตุที่เป็นระบบ มีเอกภาพ ตลอดจนการฟื้นฟูที่ดีกว่าเดิม เพื่อให้ประเทศและชุมชนมีความพร้อมในการจัดการสาธารณภัย โดยรู้รับ – ปรับตัว – ฟื้นกลับจากภัยพิบัติอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า แผน ปภ.ชาติ 58 ถือเป็นแผน ฉบับใหม่ที่ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมขับเคลื่อนการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยที่ครอบคลุมทั้งวงจรการจัดการ ภัยพิบัติ ภายใต้แนวคิดการพัฒนาระบบการป้องกัน การเตรียมความพร้อม และสร้างภูมิคุ้มกันจากภัยพิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมทั้งได้นำแนวทางการฟื้นฟูที่ดีกว่าและปลอดภัยกว่าเดิมมาเป็นกลไกในการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัย ดังนั้น เพื่อเป็นการขับเคลื่อนแผน ปภ.ชาติ 58 ไปสู่การปฏิบัติในระดับต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม คณะกรรมการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้จัดงานสัมมนาเชิงวิชาการ"ก้าวใหม่ ก้าวไกล ก้าวที่ปลอดภัย ก้าวไปกับแผน ปภ.ชาติ" ในวันพฤหัสบดีที่ 16กรกฎาคม 2558 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ โดยมีผู้แทนจาก20 กระทรวง 130 หน่วยงาน จำนวน 400 คน ร่วมรับมอบนโยบายการขับเคลื่อนกลไกการจัดการสาธารณภัยของประเทศ ภายใต้แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะได้ร่วมผลักดันยุทธศาสตร์การจัดการสาธารณภัยให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาประเทศในทุกระดับ เพื่อสร้างให้ประเทศไทย "รู้รับ – ปรับตัว – ฟื้นเร็วทั่ว – อย่างยั่งยืน"

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4