คตง. เดินหน้าตั้ง “สำนักตรวจสอบการจัดเก็บรายได้” หวังเสริมเขี้ยวเล็บ สตง.

ศุกร์ ๑๗ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๔:๔๕
คตง. ดำเนินนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินเชิงรุก ล่าสุดมีมติเห็นชอบให้จัดตั้ง "สำนักตรวจสอบการจัดเก็บรายได้" คาดใช้เป็นเครื่องมือป้องปรามการทุจริตคอร์รัปชันและเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเพิ่มรายได้แผ่นดิน ด้านผู้ว่าฯ สตง. รับลูก ประกาศเส้นตาย "3 เดือน" ให้โอกาสผู้มีหน้าที่เสียภาษีมาชำระภาษีที่ค้างชำระให้ครบถ้วนก่อนลุยปูพรมตรวจสอบเข้ม พร้อมชี้หากพบการกระทำผิดทั้งในส่วนของผู้มีหน้าที่เสียภาษีและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป

ทั้งนี้ การจัดตั้ง "สำนักตรวจสอบการจัดเก็บรายได้" ดังกล่าวถือเป็นการดำเนินมาตรการที่ต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง และอธิบดีกรมสรรพากร ขอให้กรมสรรพากรใช้ มาตรา 49 แห่งประมวลรัษฎากร ในการประเมินภาษีจากมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นของนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง และนักธุรกิจที่ร่ำรวยผิดปกติ ตลอดจนให้เร่งรัดติดตามหนี้ที่ผู้เสียภาษีค้างชำระเป็นวงเงินประมาณ 130,000.- ล้านบาท

ศาสตราจารย์พิเศษชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน แถลงว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ได้มีมติเห็นชอบให้มีการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการภายในของ สตง. โดยจัดตั้ง "สำนักตรวจสอบการจัดเก็บรายได้" ขึ้นใหม่ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 มาตรา 39 (2) กล่าวคือ ตรวจสอบการจัดเก็บภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และรายได้อื่นของหน่วยรับตรวจ และแสดงความเห็นว่าเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมติคณะรัฐมนตรี หรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการประเมินภาษีอากร การจัดเก็บค่าธรรมเนียม และรายได้อื่นที่หน่วยรับตรวจจัดเก็บด้วย

"การตรวจสอบการจัดเก็บรายได้เป็นลักษณะงานตรวจสอบด้านหนึ่งของ สตง. ซึ่งที่ผ่านมา สตง. เน้นการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน (ด้านรายจ่าย) กอปรกับภารกิจดังกล่าวอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักตรวจสอบการเงิน จึงอาจจะมีข้อจำกัดบางประการในการปฏิบัติงาน แต่นับจากนี้เป็นต้นไป สตง. จะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ตลอดจนหน่วยงานอื่น ของรัฐทุกแห่ง ควบคู่ไปกับการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และตอบสนอง

ต่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชนตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินของ คตง. โดยคาดว่าหลังจากที่มีการบรรจุบุคลากรตามกรอบอัตรากำลังและเริ่มดำเนินการตรวจสอบ พร้อมเร่งผลักดันให้มีการใช้มาตรการทางภาษีอย่างจริงจังแล้วก็จะทำให้รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และรายได้อื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหาการขาดดุลงบประมาณแล้ว ยังถือเป็นเครื่องมือหนึ่งในการป้องปราม การทุจริตคอร์รัปชันอีกด้วย" ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าว

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า การตรวจสอบการจัดเก็บรายได้ของ สตง. จะดำเนินการในสองมิติคู่ขนานกันไป ทั้งในส่วนของการป้องปรามการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และการเร่งรัดการจัดเก็บภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และรายได้อื่น ที่ยังคงค้างชำระในอดีต โดยในเบื้องต้น สตง. จะประสานกับหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดเก็บรายได้ โดยเฉพาะกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับกรอบแนวทางการตรวจสอบของ สตง.

"ในระหว่างดำเนินการจัดตั้งทีมผู้ตรวจสอบและวางแผนการตรวจสอบ สตง. จะเปิดโอกาสให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีแสดงความสุจริตใจโดยมาชำระภาษีที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายใน 3 เดือน หลังจากนั้น สตง. จะสุ่มตรวจสอบการจัดเก็บภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และรายได้อื่น พร้อมตรวจสอบการประเมินภาษีอากรของหน่วยงานจัดเก็บรายได้อย่างเข้มข้น หากพบว่ามีการจัดเก็บไม่ครบถ้วนก็จะแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการเรียกให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีมาชำระภาษี ค่าเบี้ยปรับ พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่หลีกเลี่ยงการเสียภาษี ในขณะเดียวกัน หากพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐปล่อยปละละเลย ไม่เร่งรัดการจัดเก็บภาษีให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด หรือประเมินภาษีต่ำกว่าความเป็นจริงก็จะดำเนินการสอบสวนความผิดทางวินัยการเงินและการคลังเพื่อลงโทษปรับทางปกครองและดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายโดยเคร่งครัดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป" ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าว

กลุ่มประชาสัมพันธ์และประสานราชการ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โทร. 0 2618 5755

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๐ ก.แรงงาน เตือนประชาชนรอบโกดังกากของเสีย จ.ระยอง ปฏิบัติตามคำแนะนำ พร้อมกำชับดูแลความปลอดภัยของลูกจ้างแรงงาน
๐๙:๒๘ MSC ร่วมกับ AWS จัดงาน MSC x AWS ECO Connect
๐๙:๐๕ เอเอฟเอส ประเทศไทย ผนึกกำลังศิษย์เก่า แลกเปลี่ยนแนวคิดธุรกิจให้เติบโตและยั่งยืน
๐๙:๐๐ Synology ช่วยให้องค์กรต่างๆ นำแผนการกู้คืนข้อมูลจากแรนซัมแวร์ไปปรับใช้ได้อย่างไร
๐๙:๓๗ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ชวนคนกรุงฯ ค้นหาความสุขที่แท้จริงของชีวิต กับกิจกรรม ธรรมะในสวน ห้วข้อ เข้าใจชีวิต พิชิตสุข ณ สวนเบญจกิติ 4 พฤษภาคม 2567
๐๙:๐๒ ฉางเจียงเปิดแฟชั่นโชว์ หลอมรวมวัฒนธรรมและงานศิลป์อวดสายตาชาวโลก
๐๙:๕๗ เจาะฟีเจอร์กล้อง 108MP ใน HUAWEI nova 12i สเปกเท่าเรือธงในงบต่ำหมื่น!
๐๘:๑๓ ม.หอการค้าไทย ลงนามความร่วมมือ กับ AIT
๐๘:๒๑ จับติ้วแบ่งสายสุดเดือด ศึกลูกหนังเยาวชน แอสเซทไวส์ สยามกีฬาคัพ 2024 เริ่มโม่แข้ง 23 เม.ย.นี้!!
๐๘:๔๐ The Winner of OpsSimCom 2024 by MIT Sloan is.THAMMASAT.!!